ASTVผู้จัดการ - “สนธิ” เผยจะไม่ยอมไปเชลียร์ผู้มีอำนาจ เพื่อแลกกับการกลับมาออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวีแน่ ลั่นถ้าเปิดต้องพูดความจริงได้ ยันไม่ยอมแพ้ จะสู้วัดใจระหว่างธรรมะกับอธรรมว่าใครจะอึดกว่ากัน
ช่วงเช้าวันนี้ (22 มิ.ย.) ที่บ้านพระอาทิตย์ เขตพระนคร ในงานพระอาทิตย์แฟร์ครั้งที่ 4 เพื่อช่วยเหลือเอเอสทีวีที่ถูกระงับการออกอากาศมาครบ 1 เดือน นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งและที่ปรึกษาสื่อในเครือเอเอสทีวีผู้จัดการ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนสั้นๆ ถึงสถานการณ์การระงับออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวีว่า ตนก็ไม่ทราบเช่นกันว่าเอเอสทีวีจะได้เปิดเมื่อไหร่ แต่ถ้าต้องแลกการเปิดเอเอสทีวีกับการเสียศักดิ์ศรีด้วยการต้องให้ไปเอาอกเอาใจผู้มีอำนาจ ตนไม่เปิดดีกว่า
“ไหนๆ มาแล้วจะบอกพี่น้องหน่อย ขออนุญาต เอเอสทีวีเปิดเมื่อไหร่ ผมไม่รู้ แต่ถ้าเปิดแล้วมีเงื่อนไขทำให้ผมพูดความจริงไม่ได้ กูก็ไม่เปิด เพราะถ้าเปิดแล้วต้องไปเชลียร์มันเนี่ย เสียศักดิ์ศรีพวกเราใช่มั้ย เพราะถ้าเราเปิดแล้ว เราต้องพูดความจริงได้ เพราะฉะนั้นแล้วพวกผมจะไม่ยอมแพ้ ถ้ามึงปิดกูแล้วเปิดแล้วมีเงื่อนไขกูไม่เปิด แต่กูจะอยู่สู้กับมึง วัดใจกันว่าระหว่างใจของคนสู้เพื่อความเป็นธรรม กับใจของอธรรม ใครจะยาวกว่ากัน ใครจะอึดกว่ากันใช่ไหมพี่น้อง” นายสนธิกล่าว
อนึ่ง การระงับออกอากาศของเอเอสทีวีมีผลมาตั้งแต่กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) มีคำสั่งขอความร่วมมือระงับการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม 10 แห่ง รวมถึงเอเอสทีวี เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ก่อนที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะมีประกาศซ้ำ ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ประกาศยึดอำนาจการปกครองให้ระงับการถ่ายทอดออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม 14 แห่ง รวมถึงเอเอสทีวี
สำหรับการระงับการออกอากาศ นอกจากจะทำให้การทำหน้าที่สื่อมวลชนของเอเอสทีวี ต้องหยุดชะงักลงชั่วคราว นับตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค.เป็นต้นมาแล้วยังส่งผลกระทบต่อสภาพทางธุรกิจของเอเอสทีวี ที่มีรายได้ส่วนหนึ่งมาจากการโฆษณา และการขายสินค้าอีกด้วย