ตร.โต้เฟซบุ๊ก “นพพร” กุเรื่องตกเป็นเหยื่อ ยันหลักฐานชัดไม่บิดเบือน

เสธ.เจี๊ยบ ถูกควบคุมตัวในห้องขัง สน.วัดพระยาไกร เตรียมนำตัวฝากขังศาลทหารพรุ่งนี้ ให้การยันรู้จัก “นพพร” เศรษฐีหมื่นล้าน ขบวนการหมิ่นเบื้องสูง เครือข่ายแก๊งทวงหนี้ “พงศ์พัฒน์” จริง ตร. โต้เฟซบุ๊ก “นพพร” ยันไม่มีการแจ้งข้อหาและไม่มีทางบิดเบือน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบแก๊งอุ้มลดหนี้

วันนี้ (7 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณี น.ท.ปริญญา รักวาทิน หรือ เจี๊ยบ อายุ 52 ปี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ผู้ต้องหาตามหมายศาลทหาร ที่ 139/2556 ลงวันที่ 3 ธ.ค. 57 ในข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาทดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตามมาตรา 112 ร่วมกันทำร้ายผู้อื่น, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์และร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือยอมจำนนต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์ของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้นไม่ กระทำการนั้นหรือยอมจำนนต่อสิ่งนั้นโดยมีอาวุธโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ที่ไปกระทำการข่มขู่ผู้เสียหายให้ลดหนี้สินจำนวน 120 ล้าน เหลือ 20 ล้านบาท ในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร ได้เดินทางเข้ามอบตัวที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา และให้การว่าตนรู้จักกับ นายนพพร ศุภพิพัฒน์ อายุ 43 ปี เศรษฐีหมื่นล้าน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหาร ที่ 138/2557 ในข้อหาเดียวกัน ซึ่งขณะนี้หนีออกนอกประเทศไปแล้ว และ นายชากานต์ ภาคภูมิ หนึ่งในผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อคดีเดียวกัน (ถูกจับกุมแล้ว) หลังจากนั้น ส่งตัว น.ท.ปริญญา รักวาทิน ให้พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร เพื่อควบคุมตัวไปฝากขังที่ศาลทหารในวันจันทร์ที่ 8 ธ.ค. ที่จะถึงนี้

พ.ต.อ.เกียรติณรงค์ เฉลิมสุข ผกก.สน.วัดพระยาไกร เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าว ว่า เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา น.ท.ปริญญา รักวาทิน ได้เข้ามอบตัวที่ บช.น. และให้ปากคำที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหามาควบคุมที่ สน.วัดพระยาไกร โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคอยตรวจตราดูแลตลอด 24 ชม. เพื่อป้องกันเหตุด่วนเหตุร้ายที่จะเกิด เนื่องจากว่าผู้ต้องหาอยู่ในภาวะเครียด นอกจากนี้ ยังไม่พบคนสนิทหรือญาติมาติดต่อขอเยี่ยม คาดว่าในวันรุ่งขึ้น (8 ธ.ค.) จะควบคุมตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลทหารต่อไป

ด้านผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ นายนพพร ศุภพิพัฒน์ เศรษฐีหมื่นล้าน ที่ทำหนังสือชี้แจงแล้วถ่ายภาพลงเฟซบุ๊ก โดยมีเนื้อหาบางส่วนกล่าวถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร ว่า ปิดบังหลักฐานและระบุให้ตนตกเป็นเหยื่อ “ผมเห็นมีพิรุธ ประกอบกับมีการประโคมข่าวเรื่องลดหนี้ (ทั้งๆ ที่ทางตำรวจก็มีเอกสารสำเนาการยอมความที่ศาลข้างต้นทั้งสองชุดเป็นหลักฐาน) ผมเกรงว่าคงไม่ได้ประกันตัวและถูกปิดปาก จึงต้องหนีไปตั้งหลักก่อน” ข้อความ นายนพพร นั้น พ.ต.อ.เกียรติณรงค์ กล่าวว่า ขอยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เนื่องจากพนักงานสอบสวนเคยเชิญตัวให้ข้อมูล 1 ครั้ง และก็ยังไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆ ซึ่งคดีดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกระบวนยุติธรรมของกฎหมาย ไม่มีทางบิดเบือนอย่างแน่นอน เพราะการแจ้งข้อหาแต่ละครั้งจะต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน จนสามารถขออนุมัติหมายจับศาลทหารได้ หากผู้ต้องหาต้องการแสดงความบริสุทธิ์ ให้ประสานมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที

ทั้งนี้ ได้จัดตั้งคณะพนักงานสอบสวน โดยมี พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รอง ผบช.น. เป็นหัวหน้าชุด พล.ต.ต.ชวลิต ประสพศิลป ผบก.น.5 เป็นรองหัวหน้าดูแลคดีข่มขู่ลดหนี้จาก 120 ล้าน เหลือ 20 ล้านบาท ในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกรอีกด้วย