บุกตรวจสอบรุกที่ ส.ป.ก. ในพื้นที่ จ.โคราช หลังถูกนายทุน 3 รายใหญ่ลักขุดดินขายให้โครงการบ้านจัดสรร พบขุดจนลึกลงไปแล้ว 50 เมตร เผยทำมานานกว่า 10 ปีแล้ว ส่งผลกระทบก่อให้เกิดดินถล่มแบบแลนด์สไลด์
วันนี้ (29 ก.ย.) นายธนวัฒน์ สนิทศักดิ์ นักสืบสวนชำนาญการพิเศษ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พร้อมด้วย พ.อ.สมหมาย บุษบา คณะทำงานด้านกฎหมาย กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 2 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมอุตสาหกรรม กรมที่ดินและสำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.นครราชสีมา สนธิกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่จัดสรรของสำนักงานปฎิรูปที่ดิน จ.นครราชสีมา ภายหลังมีประชาชนในพื้นที่ร้องเรียนว่ามีการลักลอบขุดดินโดยไม่ชอบ ในพื้นที่ ส.ป.ก. กว่า 100,000 ไร่
นายธนวัฒน์ กล่าวว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่บ้านภูเขาทอง ต.ไชยมงคล อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบมีผู้บุกรุกนำรถแบ็กโฮและรถบรรทุกมาไว้ขุดหน้าดินเพื่อนำไปจำหน่าย ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า มี นายทุนรายใหญ่ 3 รายที่ว่าจ้างคนงานนำเครื่องจักร รถแบ็กโฮและรถบรรทุกเข้าไปลักลอบขุดดินในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อนำไปขายให้โครงการหมู่บ้านจัดสรร ใน จ.นครราชสีมา ราคารถบรรทุกสิบล้อคันละ 900 - 1,200 บาท และรถบรรทุกหกล้อคันละ 600 - 900 บาท โดยทำมานานกว่า 10 ปี แล้ว ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าวได้ถูกลักลอบขุดหน้าดินไปแล้วกว่า 147 ไร่ ไม่รวมกับกับแปลงอื่นๆ ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงอีกกว่า 300 ไร่
นายธนวัฒน์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบทางกายภาพของพื้นที่ พบว่า มีการใช้รถแบ็กโฮขุดผิวดินในลักษณะตั้งฉาก มีความลึกจากพื้นดินประมาณ 50 เมตร ซึ่งการขุดดินในลักษณะนี้จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในด้านการเกิดดินถล่มแบบแลนด์สไลด์ ในกรณีที่เกิดฝนตกหนักจากการประเมินความเสียหายเป็นตัวเงินพบว่าเฉพาะจุดดังกล่าว มีมูลค่าความเสียหายทีเกิดขึ้นต่อเนื่องกว่า 10 ปี มีไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท
ด้าน พ.อ.สมหมาย บุษบา คณะทำงานด้านกฎหมาย กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า จากการสอบถามข้อมูลจาก ส.ป.ก. ระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตปฏิรูปที่ดินตั้งแต่ปี 2544 ซึ่งสภาพดั้งเดิมเป็นหลุมเป็นบ่อ แต่ ส.ป.ก. ก็ยังคงออกรังวัดที่ดินอย่างต่อเนื่องนานกว่า 17 ปี ภายหลังมีการจัดสรรที่ดินให้ชาวบ้านเพื่อทำการเกษตรปรากฏว่า ชาวบ้านได้ร่วมมือกับนายทุนและผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ลักลอบขุดดินไปขาย เพื่อส่งให้กับโครงการหมู่บ้านจัดสรรทุกประเภททั่ว จ.นครราชสีมา ดังนั้น เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. จะแจ้งความเอาผิดกับผู้ลักลอบขุดดินกับ สภ.โพธิ์กลาง รวม 3 ข้อหา ประกอบด้วย ข้อหาทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามความผิด กม.ฟอกเงิน มาตรา 3(15) ข้อหาลักทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา และข้อหาขนที่และขุดที่ 2543
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ป.ป.ท. ได้เข้าไปตรวจสอบการลักลอบขุดดินบริเวณบ้านพรวงน้อย ม.3 ต.บ้านโพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบการลักลอบขุดดินเป็นที่เนื้อที่กว่า 200 ไร่ โดยสามารถจับกุมนายทุนรายย่อยคือ นายไกรวิทย์ เหมตระกูล หรือ บอย ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่าลักลอบขุดดินมานาน 1 เดือน โดยใช้รถบรรทุก 6 ล้อ วิ่งขนส่งดินวันละ 30 - 40 เที่ยว
รายงานข่าวแจ้งว่าพื้นที่ขุดดินดังกล่าวเป็นที่สปก.โดยมีชื่อตำรวจยศ พ.ต.ท. คนหนึ่งเป็นผู้ถือครอง ซึ่ง"เสี่ยยุ้ย"หนึ่งในสามนายทุนรายใหญ่ ได้พยายามเจรจาให้พ.อ.สมหมาย ยุติการตรวจสอบแต่ไม่เป็นผล
นอกจากนี้ กรณีมีผู้บุกรุกปลูกอ้อยพื้นที่3,900ไร่ เข้าใช้ประโยชน์ที่ดินสาธารณะหนองกุง-หนองแก้ว ต.หนองตะไก้ อ.สูงเนิน โดยมี"เสี่ยกัง"อยู่เบื้องหลัง ล่าสุดมีรายงานข่าวว่ามีการเสนอสินบน2ล้านบาทให้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของปปง.เพือแลกกับการไม่ดำเนินการยึดทรัพย์อีกด้วย