แม่ค้าพระประแดงกว่า 10 รายร้องกรมคุ้มครองสิทธิฯช่วยไกล่เกลี่ย หลังถูกเทศบาลปู่เจ้าสมิงพรายไล่ที่ทำกินกะทันหันเพื่อปรับภูมิทัศน์ หลังจากทำมาค้าขายนานกว่า 10 ปีแล้ว ขอชะลอคำสั่งเพื่อหาที่ทำกินใหม่ก่อน
วันนี้ (29 ก.ย.) ที่ศูนย์คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมคุ้มครองสิทธิฯ กระทรวงยุติธรรม นางวันเพ็ญ ปลื้มจิตร อายุ 50 ปี แม่ค้าร้านอาหารตามสั่ง ย่านโรงงาน ภายในซอยเอมเอม ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ พร้อมผู้ได้รับความเดือดร้อน กว่า 10 ราย เดินทางเข้าพบ นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านส่งเสริมการระงับข้อพิพาท กรมคุ้มครองสิทธิฯ เพื่อขอความช่วยเหลือ กรณีถูกเทศบาลปู่เจ้าสมิงพรายไล่ที่ทำกินกะทันหัน
นางวันเพ็ญ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ตนและแม่ค้ารายอื่นเคยทำกินในพื้นที่ใกล้เคียงกันกับบริเวณดังกล่าว ต่อมาทางเทศบาลแจ้งให้ย้ายมาบริเวณดังกล่าวโดยให้เหตุผลว่าจะปรับภูมิทัศน์ จึงได้ย้ายร้านค้ามาที่ที่เทศบาลจัดสรรให้ หลังจากนั้นปรากฏว่าพื้นที่ดังกล่าวได้สร้างเป็นที่จอดรถบรรทุกของบริษัทหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ตนและแม่ค้าย้ายร้านมาทำกินในที่ใหม่เมื่อประมาณ ปี พ.ศ. 2546 จนกระทั่งเมื่อต้นเดือน ก.ย. 2557 ทางเทศบาลปู่เจ้าสมิงพราย นำหมายมาติดประกาศเพื่อขอพื้นที่คืน โดยระบุว่า จะปรับภูมิทัศน์สร้างศูนย์รับเลี้ยงเด็กและสนามเด็กเล่น แต่ภายหลังทราบเรื่องตนได้ไปร้องเรียนต่อคณะรักษาความสงบแห่ชาติ (คสช.) แล้ว ทั้งนี้ ตนและแม่ค้าย่านนั้นต่างกลุ้มใจ ไม่รู้จะไปหาที่ทำกินที่ไหน เพราะรายได้หลักของครอบครัวมาจากการขายอาหารตามสั่งให้กับพนักงานโรงงานแถวนั้น และถ้าถูกไล่ที่กะทันหันตนก็ไม่มีเงินส่งเสียลูกสาวเรียน อีกทั้งไม่มีเงินจุนเจือครอบครัว และที่มาในวันนี้อยากขอให้ทางกรมคุ้มครองสิทธิฯช่วยดำเนินการในการชะลอขอคืนพื้นที่ดังกล่าวไว้ก่อนจนกว่าตนและแม่ค้าที่ได้รับผลกระทบจะหาที่ทำกินได้ใหม่
ด้าน นายเกิดโชค กล่าวว่า ถ้าเป็นข้อพิพาทระหว่างบริษัทย่านนั้น กับเทศบาล และเจ้าทุกข์ ทางกรมก็จะจัดเจรจาไกล่เกลี่ยให้ แต่อีกกรณีหนึ่งถ้าเทศบาลมีหมายศาลไปแล้ว ทางกรมคุ้มครองสิทธิฯจะเป็นผู้ช่วยในการดำเนินการร้องศาลปกครองเพื่อให้ชะลอการไล่ที่นั้นๆ เพื่อให้ผู้ได้รับกระทบหาที่ทำกินใหม่ได้ก่อน