รายงาน...
เรียกเสียงฮือฮาได้ดีเลยทีเดียว สำหรับกรณีที่ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนที่ 10 แถลงข่าวจับกุม 5 ผู้ต้องหากลุ่ม “ชายชุดดำ” ที่ก่อเหตุความไม่สงบในช่วงการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อปี 2553
โดย 5 ผู้ต้องหา ประกอบด้วย “อ้วน รถตู้” กิตติศักดิ์ สุ่มศรี อายุ 45 ปี, “ไก่เตี้ย” ปรีชา อยู่เย็น อายุ 24 ปี, “นะ” รณฤทธิ์ สุริชา อายุ 33 ปี, “เล็ก” ชำนาญ ภาคีฉาย อายุ 45 ปี, “อร” ปุณิกา ชูศรี อายุ 39 ปี ขณะที่มีอีก 2 คนอยู่ระหว่างการหลบหนี คือ “ไก่ รถตู้” ธนเดช เอกอภิวัชร์ อายุ 39 ปี, “โบ้” วัฒนะโชค จีนปุ้ย อายุ 23 ปี, ส่วนอีกคนคือ “ดำ” ธัมมรัตน์ สุ่มสี เสียชีวิตแล้ว, ด้าน “เสธ.ไก่” จักรรินทร์ เรืองศักดิ์วิชิต ในฐานะผู้สั่งการ อยู่ในหมายจับศาลทหารจังหวัดสระบุรีในข้อหาอาวุธสงคราม
ในการแถลงข่าวครั้งนี้ “บิ๊กอ๊อด” ระบุว่าเป็นกลุ่มที่ลงมือก่อเหตุความรุนแรงที่แยกคอกวัว ในวันที่ 10 เมษายน หรือวันที่ “เสธ.เปา” พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม อดีตรองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ต้องสังเวยชีวิต โดยทั้งหมดเริ่มต้นรับอาวุธและวางแผนที่บ้านริมน้ำ ซอยรามอินทรา 34 ก่อนจะมาประจำจุดหน้าธนาคารออมสิน พร้อมระดมยิงอาวุธปืนเข้าใส่เจ้าหน้าที่ทหาร ทั้งปืนเอ็ม 16, ปืนเอเค 47, ปืนเอ็ม 203, ปืนยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 และระเบิดเอ็มเค-2
...โดยการก่อเหตุครั้งนั้น ไม่มีการเจาะจง หรือระบุตัวบุคคล แต่เป็นการยิงมั่วเข้าใส่เจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งสุดท้ายมีการจับ “แพะชนแกะ” ว่ามีความเชื่อมโยงกับ “เปิ้ล สหายสุดซอย” กริชสุดา คุณะเสน อายุ 27 ปี เสื้อแดงหัวก้าวหน้า และเลขาฯ ของ “เมย์ อียู” มนัญชยา เกศแก้ว อายุ 46 ปี ท่อน้ำเลี้ยงเสื้อแดงภาคตะวันออก... แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ความจริงแล้ว ณ เวลานั้น “หนูเปิ้ล” เป็นแค่นักศึกษาปี 3 เท่านั้น และเป็นแค่กลุ่มแดงร่วมกิจกรรมรุ่นใหม่ที่ทำหน้าที่เฝ้าตู้บริจาคในเต็นท์เสรีปัญญาชน แม้จะมีหลักฐานอ้างว่าพบเลขบัญชีของผู้ต้องหาเหล่านี้ ขณะไปค้นที่บ้านพัก “เมย์ อียู” ก็ดูฟังไม่ค่อยรื่นหูสักเท่าไหร่...
ทั้งนี้ พล.ต.อ.สมยศยังระบุอีกว่า “การจับกุมครั้งนี้ไม่ใช่แพะแน่นอน และทุกคนมีหมายจับอยู่แล้ว โดยมีเสธ.ไก่เป็นคนสั่งการ แต่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเหตุการณ์ที่แยกคอกวัว และกลุ่มผู้ต้องหาที่นำมาแถลงข่าวนี้อยู่คนละถนนกับที่ พล.อ.ร่มเกล้าประจำการอยู่ ฉะคงไม่ใช่กลุ่มที่ลงมือฆ่าทหารผู้นี้ แต่อาจมีการยิงเอ็ม 79 ข้ามถนน ซึ่งต้องตรวจพิสูจน์วิถีการยิงต่อไป แต่ทุกกลุ่มมีความเกี่ยวข้องกัน เป็นเครือข่ายเดียวกันหมดอย่างกลุ่มที่อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร” ...อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งกลุ่มที่พบว่าอยู่ในเหตุการณ์คราวนั้น เห็นมีชื่อของ “ชยุต ใหลเจริญ” แก๊งเดียวกับ “หรั่ง เทวรัตน์” ปรากฏตัวอยู่ด้วย
ขณะที่เชิงลึกพบว่า การเร่งรีบออกมาแถลงข่าวครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังฮิวแมน ไรต์วอตช์ ออกมาสอบถามถึงการหายตัวไปของ “อ้วน รถตู้” หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารอุ้มตัวหายไปจากศูนย์ฝึกครู เขตรามอินทรา เมื่อวันที่ 5 กันยายน และ “ไก่เตี้ย” ที่ถูกอุ้มหายไปจากงานเทศบาลที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 7 กันยายน ก่อนขยายผลจับกุมพวกอีก 3 คน จนเริ่มบานปลายกลายเป็นเรื่องราวตามมา...แต่ทุกคนที่ถูกจับยังใช้ชีวิตตามปกติอยู่ในพื้นที่บ้านพักของตนเอง ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ หนีไปกบดานที่อื่น เหมือนที่หลายคนเคยคิดไว้!?!
ทั้งนี้ กลุ่ม “ชายชุดดำ” ที่ถูกนำตัวมาแถลงข่าวครั้งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มคนเสื้อแดง โดยมีฉายาว่ากลุ่ม “รถตู้ระเบิด” ที่มี “เจ๊เป็ด” ปฏิภัค เอกอภิวัชร์ อายุ 45 ปี เป็นแกนหลัก ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตั้งแต่ปี 53...โดย “เจ๊เป็ด” เป็นพี่สาวของ “ไก่ รถตู้” ธนเดช และเป็นอดีตผู้ดูแลอพาร์ตเมนต์ริมน้ำ ซอยรามอินทรา 34 หลังจากเจ้าหน้าที่พบอุปกรณ์และระเบิดแสวงเครื่องจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าอพาร์ตเมนต์ดังกล่าว โดยมีเป้าหมาย “ก่อวินาศกรรม” จุดต่างๆ ในช่วงเวลานั้น
นอกจากที่แยกคอกวัวแล้ว กลุ่มนี้ยังได้ลาดตระเวนสร้างสถานการณ์ในหลายพื้นที่ โดยมียานพาหนะเป็นรถตู้ พร้อมรหัสผ่านด่านการ์ด นปช.ที่ระบุว่า “พิราบขาว” โดยก่อเหตุวางระเบิดที่หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาราชดำริ, ธนาคารกรุงเทพ สาขาสีลม และอีกมากมายในพื้นที่ปทุมวัน, โคกคราม, บางชัน และในพื้นที่นางเลิ้ง ที่มี “เจ๊เป็ด” ร่วมกับ “อ้วน รถตู้“, “ไก่ รถตู้” และ “เสก” เสกสรร วรปีติเจริญกุล, “นายผัน” นายตำรวจ ไม่ทราบนามสกุลจริง เป็นผู้ลงมือหลัก
ส่วนตัวการในการวางแผนคือ “เสธ.ไก่” จักรรินทร์ ที่ไม่ได้เป็นนายทหาร แต่ถูกยกย่องให้มียศเป็นเสธ.ตามหัวหน้าสั่งการ โดยถูกอ้างว่ามีความใกล้ชิดกับ “เสธ.คนดังผู้ล่วงลับ” นั่นเอง...
ขณะที่จุดสั่งการที่บ้านปากน้ำ ซอยรามอินทรา 34 ถือเป็นจุดศูนย์กลางหลัก โดยมีกลุ่ม “นักรบดำ” หรืออดีตทหารพรานค่ายปักธงชัย ที่เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช.เมื่อปี 53 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งบางส่วนเป็นเรี่ยวแรงหลักในกลุ่ม “นักรบโรนิน” ที่เสธ.คนดังพร่ำเพ้อมาตลอด
โดยรามอินทรา 34 ที่ “เจ๊เป็ด” แดงหัวรุนแรง เป็นผู้ประสานงานอยู่นั้น เป็น 1 ใน 3 ที่ตั้งของกลุ่มค่ายนอกเหนือจากที่จังหวัดนครราชสีมา และอุบลราชธานี...ขณะเดียวกันเบื้องหลังเสธ.คนดัง ยังมีข้อมูลเชื่อมโยงไปยัง “คนแก่” 2-3 คน ทั้งมีและไม่มีสี อย่างชื่อตัวย่อ “ช.”, “พ.” หรือ “ม.” ที่อยู่เบื้องหลังเหตุความรุนแรงเมื่อปี 53 หลังจากหน่วยงานด้านการข่าวตามแกะรอยจากการใช้โทรศัพท์
เรื่องทั้งหมดทาง “ธาริต เพ็งดิษฐ์” อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) น่าจะเป็นหนึ่งในบุคคลที่รู้ดี..แต่ไฉนจู่ๆ กลับมองไม่เห็น “ชายชุดดำ” เสียเอง...ขณะเดียวกันคดีเหล่านี้อยู่ในลิ้นชักของ ผบ.ตร.มาถึง 3 คน ทั้ง “บิ๊กน้อย” พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี, “บิ๊กอ๊อบ” พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ และ “บิ๊กอู๋” พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว แต่กลับกลายเป็นว่าหลายคดีเงียบหายเข้ากลีบเมฆ!!!
สุดท้ายต้องลุ้นกันยาวๆ ว่า ตำรวจยุค “บิ๊กอ๊อด” ว่าที่ผู้นำ “จัมเปอร์” ผู้กว้างขวาง ที่ลงมือแกะเกา “รอยแผลเก่า” และตราบาปของคนเสื้อแดงด้วยตนเองนั้นจะสามารถสาวไปถึงคนเบื้องหลังชายชุดดำได้จริงตามคำโวหรือไม่ แต่หวังว่าคงไม่หลงทางเองเสียก่อน?