ASTVผู้จัดการ – “สมยศ” แถลงรวบ 5 ชายชุดดำจาก 7 คน กรณีสังหาร พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ตั้งแต่ปี 2553 เชื่อมโยง น.ส.กริชสุดา คุณะแสน หรือ เปิ้ล นักกิจกรรมเสื้อแดงที่หลบหนีไปยุโรป เผยพบหลักฐานการโอนเงินจำนวนมาก
วันนี้ (11 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.45 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ รอง ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร นำโดย พล.ต.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 พ.อ.วิจารณ์ จดแตง ผู้อำนวยการกฎหมาย กอ.รมน. หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานกฎหมายส่วนรักษาความสงบ คสช. ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายกิตติศักดิ์ หรือ อ้วน สุ่มศรี อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 2 ซอยรามอินทรา 36 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. หมายจับศาลอาญา ที่ 1600/2557 ลง 10 ก.ย. 2557 นายปรีชา หรือ ไก่เตี้ย อยู่เย็น อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 9 ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ หมายจับศาลอาญา ที่ 1603/2557 ลง 10 ก.ย. 2557 นายรณฤทธิ์ หรือ นะ สุริชา อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 3 ซอย ต.กลางใหญ่ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี หมายจับศาลอาญา ที่ 1604/2557 ลง 10 ก.ย. 2557 นายชำนาญ หรือ เล็ก ภาคีฉาย อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/126 หมู่ 6 แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ หมายจับศาลอาญา ที่ 1605/2557 ลง 10 ก.ย. 2557 และ นางปุณิกา หรือ อร อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 702/155 ซอยพหลโยธิน 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ หมายจับศาลอาญา ที่ 1606/2557 ลง 10 ก.ย. 2557 ซึ่งทั้งหมดเป็นขบวนการชายชุดดำที่ใช้อาวุธสงครามยิงใส่เจ้าหน้าที่ทหารจากเหตุการณ์ความรุนแรงช่วงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อเดือน เม.ย. 2553 เป็นเหตุให้ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม อดีตรองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพรองค์ (พล.ร.21 รอ.) เสียชีวิต
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 เวลาประมาณ 20.00 น. มีการปฏิบัติการขอคืนพื้นที่จากกลุ่มผู้ชุมนุม โดยเฉพาะบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนตะนาว และบริเวณข้างเคียง โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร เป็นกำลังหลักในการปฏิบัติ ขณะนั้นได้มีกลุ่มคนร้ายแต่งกายเป็นชายชุดดำ ใช้อาวุธสงครามยิง และขว้างระเบิดใส่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหาร และพี่น้องประชาชนจนเป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ทหารและประชาชนได้รับบาดเจ็บ และถึงแก่ความตายจำนวนหลายราย รวมทั้ง พล.อ.ร่มเกล้า ซึ่งเสียชีวิตในที่เกิดเหตุในคืนวันนั้นด้วยดังกล่าว
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า สำหรับคดีนี้มีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ 7 คน จับกุมได้แล้ว 5 คน อยู่ระหว่างหลบหนี 2 คน คือ นายธนเดช เอกอภิวัชร์ หรือ ไก่ รถตู้ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 328/22 หมู่ 2 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ หมายจับศาลอาญา ที่ 1601/2557 ลง 10 ก.ย. 2557 และ นายวัฒนะโชค หรือ โบ้ จีนปุ้ย อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 17 ซอย ต.พุทธบาท อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ หมายจับศาลอาญา ที่ 1602/2557 ลง 10 ก.ย. 2557
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างทหารกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยการรวบรวมพยานหลักฐานทำงานอย่างรอบคอบจนศาลอนุมัติหมายจับกุม ทำให้ เกิดความกระจ่างต่อสังคมว่าชายชุดดำที่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้มีจริง และทุกคนก็ให้การรับสารภาพ หลังจากนี้จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนว่ามีความเชื่อมโยงกับใครบ้าง มีใครร่วมลงมือ มีใครให้การสนับสนุน ทั้งนี้ จากการสืบสวนทราบว่าผู้สั่งการคือนายจักรรินทร์ (เสธ.ไก่) เรืองศักดิ์วิชิต ซึ่งตอนนี้ถูกศาลจังหวัดทหารบกสระบุรี ออกหมายจับแล้วเลขที่ จ.8 ก./2557 เป็นบุคคลธรรมดา นอกจากนี้ผู้ต้องหากลุ่มนี้มีความเชื่อมโยงกับ น.ส.กริชสุดา คุณะแสน หรือ เปิ้ล นักกิจกรรมเสื้อแดง ที่ถูกศาลอนุมัติออกหมายจับไปก่อนหน้านี้ กรณีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดหาอาวุธสงครามให้กับผู้ต้องหาคดีใช้อาวุธสงครามยิงใส่สถานที่ต่างๆ โดยพบหลักฐานสลิปการโอนเงินจำนวนมากให้กับผู้ต้องหาเหล่านี้ในบ้านของ น.ส.กริชสุดา ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขได้ บอกได้แค่ว่าจำนวนมาก
"สำหรับสาเหตุนั้นเป็นลักษณะขบวนการมีหัวโจก มีอุดมการณ์ มีความเกลียดชัง มีค่าจ้างจึงได้ร่วมกันทำ สำหรับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษอยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะดำเนินการขออนุญาตทางดีเอสไอ ให้คณะทำงานเข้าร่วมการสอบสวนครั้งนี้ด้วย เพื่อนำคดีดังกล่าวเป็นคดีหลักต่อไป สำหรับการสืบสวนจับกุมว่าสามารถจับกุมได้ที่ไหนอย่างไรนั้นไม่ขอเปิดเผยเป็น เรื่องที่ตำรวจต้องทำงาน จะเอาวิธีไปบอกโจรไม่ได้ ต่อไปจะทำงานลำบาก หลังจากนี้หากมีตำรวจคนไหนเปิดเผยวิธีการจับกุมคนร้ายก็ต้องถูกลงโทษบ้าง"รองผบ.ตร. กล่าว
สำหรับเส้นทางการดำเนินการของกลุ่มคนร้ายมีทั้งหมด 8 คน รวมนายธัมมรัตน์(ดำ) สุ่มสี ที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ โดยทั้งหมดได้วางแผนและรับมอบอาวุธกันที่คอนโดบ้านริมน้ำ ถนนรามอินทรา 34 จากนั้นทั้งหมดได้เดินทางโดยใช้รถตู้ สีขาว เพื่อเดินทางไปที่เกิดเหตุ จากนั้นทั้งหมดได้ขับรถขึ้นทางด่วนรามอินทรา มาลงยมราช และจอดรถที่ซอยวัดมหรรพาราม ถ.ตะนาว เมื่อลงจากรถก็เดินไปตามถนนตะนาวมุ่งหน้าไปที่แยกคอกวัว ก่อนถึงแยกคอกวัวได้ผ่านจุดคัดกรองเจอการ์ดของกลุ่มนปช.ซึ่งมีตำรวจร่วมด้วยแต่ตำรวจจุดนั้นไม่มีอาวุธ ตรงจุดนี้พบว่ากลุ่มคนร้าย 3 คนมีอาวุธไปด้วย การ์ดของกลุ่มนปช.เข้ามาตรวจถ่ายรูป จากนั้นได้ปล่อยเข้าไปด้วยรหัสผ่าน"พิราบขาว" ก่อนที่คนร้ายได้เดินไปตรงธนาคารออมสิน จากนั้นเริ่มใช้อาวุธยิง ระดมยิงใส่ชุดทหารที่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม หลังจากยิงเสร็จได้ถอนย้อนกลับมาที่จุดรถตู้จอด ระหว่างทาง นายธัมมรัตน์ ซึ่งถือเครื่องยิงเอ็ม 79 มาด้วย ถูกตำรวจล็อคตัวไว้พร้อม ยึดเครื่องยิงเอ็ม 79 เอาไว้ได้ ส่วนคนร้ายกลุ่มผู้ชุมนุมใช้คนมากดดันแย่งตัวไปได้ จากนั้นคนร้ายทั้งหมดได้มารวมตัวกันอีกครั้งที่รถตู้จอดไว้ขับรถอ้อมไปถนนตะนาว เข้าถนนดินสอ มาสวนกันเจ้าหน้าที่ทหารที่ใช้รถฮัมวี จุดนั้นคนค่อนข้างเยอะก็เบียดกันคนร้ายได้ลดกระจกลงมา หนึ่งในผู้ต้องหาตะโกนด่าทหาร "ไปทำเหี้ยอะไรที่นี่ ทำไมไม่ไปปฏิบัติการที่ภาคใต้" คำพูดนี้ทำให้ทหารสามารถจำหน้าได้ 1 คน ที่อยู่ในรถ หลังจากนั้นกลุ่มคนร้ายก็แยกย้ายหลบหนีกันไปหลายปี ตำรวจทหารก็เฝ้าสืบสวนสอบสวนต่อเรื่องจนมีหลักฐานแน่ชัดขออนุมัติหมายศาลออกหมายจับจนจับกุมได้
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าได้ใช้อาวุธสงครามก่อเหตุที่บริเวณแยกคอกวัวจริง โดยนายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า พวกตนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ต่างคนต่างมา มารู้จักกันเพราะมาร่วมทำวานนี้ โดยได้เจอกันที่สถานีวิทยุชุมนุม เอฟเอ็ม 91.75 ส่วนอาวุธก็ไม่เคยฝึกใช้มาก่อน วันเกิดเหตุก็ไปรับอาวุธที่บ้านริมน้ำ จากนั้นนายธนเดช หรือไก่ ก็ได้สอนการใช้อาวุธว่าทำแบบไหน แล้วก็ตามๆกันไป โดยไม่ได้เจาะจงว่าให้ยิงใครเป็นการเฉพาะ บอกให้ยิงในซอยนั้นก็ยิง ไม่ได้บอกให้ยิงทหารคนไหนเป็นพิเศษ สำหรับวันเกิดเหตุโดยนายกิตติศักดิ์ใช้อาวุธปืนเอ็ม 79 และระเบิด เอ็มเค-2 นายธรรมรัตน์ ใช้อาวุธเอ็ม 79 นายธนเดช ใช้อาวุธปืน เอ็ม 203 นายวัฒนะโชค ใช้อาวุธปืนเอเค 47 นายปรีชาใช้อาวุธปืน เอเค 47 นายรณฤทธิ เฝ้ารถไม่มีอาวุธ นายชำนาญ ใช้อาวุธปืน เอ็ม 16 ส่วนนางปุณิกา ใช้ระเบิดเพลิง เอ็ม100
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาว่า “ร่วมกันมีและใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ที่นายทะเบียน ไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้, พกพาอาวุธปืนและวัตถุระเบิดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่มีเหตุอันสมควร”
ไขปริศนาใครฆ่า พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม จากรายการเจาะข่าววงใน