xs
xsm
sm
md
lg

ปาหี่โชว์วิสัยทัศน์ชิง “ผบ.ตร.” พิธีกรรมอุ้ม “อ๊อด” กัน “เอก”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร.
สน.พระอาทิตย์

กระบวนการแต่งตั้ง “แม่ทัพใหญ่สีกากี” แทน “บิ๊กอู๋” พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่จะเกษียณราชการวันที่ 30 ก.ย. 2557 เหมือนจะเพิ่งเริ่มต้นขึ้น

หลังจาก “บิ๊กกุ้ย” พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ รักษาการ ผบ.ตร. มีหนังสือให้ 5 รอง ผบ.ตร. และจเรตำรวจแห่งชาติ ที่มีคุณสมบัติครบตามประกาศ คสช. ส่งประวัติ ผลงาน และแสดงวิสัยทัศน์การทำงานมาให้พิจารณา และทั้ง 5 นายพลแคนดิเดตก็ส่งการบ้านกันเรียบร้อย ตามกำหนดตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมา

แต่ดูเหมือนในความเป็นจริง กระบวนการเลือก “ผบ.ตร.” คนใหม่ จะจบไปแล้วเกือบ 90% อีก 10% น่าจะเป็นเพียงแค่นำรายชื่อเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช. ที่มี “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ซึ่งมีอำนาจเทียบเท่านายกรัฐมนตรี ขณะนี้ นั่งหัวโต๊ะประธาน ก.ต.ช. ประทับตรา ตามกฎ ตามระเบียบข้อกฎหมายเท่านั้น

“อ.อ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. !!! คือชื่อ “ผบ.ตร.” ในดวงใจ พล.ต.อ.วัชรพล ที่จะเสนอให้ ก.ต.ช.ประทับตราแต่งตั้งดำรงตำแหน่ง “ผบ.ตร” คนที่ 10 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

แม้ พล.ต.อ.วัชรพล จะกลับคำพูดตัวเอง จากที่เคยบอกมี “ว่าที่ ผบ.ตร.” ในดวงใจ เป็น “พล.ต.อ.” ทุกคนที่คุณสมบัติครบมีโอกาสเป็นเบอร์ 1 กรมปทุมวันหมด ตามด้วยการออกหนังสือเวียนแจ้งให้ รอง ผบ.ตร. และจเรตำรวจแห่งชาติ ทั้งพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ พล.ต.อ.สมยศ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. และพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน จเรตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีคุณสมบัติครบขึ้นนั่งเก้าอี้ ผบ.ตร. ส่งประวัติ ส่งผลงาน และแสดงวิสัยทัศน์ ในประเด็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนประเทศชาติในการเป็นผู้นำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

นั่นเป็นเพียง “พิธีกรรม” ในกระบวนการแต่งตั้ง “ผบ.ตร.” ให้สมบูรณ์

แสดงความโปร่งใส ป้องกันการฟ้องร้อง และลดข้อครหา “ล็อกสเปก” เพราะถ้าไม่มีพีธีกรรมดังกล่าวแล้ว หาก พล.ต.อ.วัชรพล เสนอชื่อ พล.ต.อ.สมยศ นั่งเก้าอี้ “ผบ.ตร.” ก็มีความสุ่มเสียงอาจเกิดปัญหาข้อกฎหมาย การฟ้องร้องกันขึ้นในอนาคต

ที่สำคัญ พล.ต.อ.วัชรพล ในฐานะผู้เสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมในการดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. จะต้องตอบคำถาม กรรมการ ก.ต.ช. ให้ได้ว่าเหตุใด ไม่เลือก พล.ต.อ.เอก ซึ่งมีอาวุโสลำดับ 1 หรือ พล.ต.อ.พงศพัศ อาวุโสลำดับ 2 และเหตุใดเลือก พล.ต.อ.สมยศ ที่อาวุโสลำดับ 3 ทำไมไม่เลือก พล.ต.อ.วรพงษ์ อาวุโสลำดับ 4 หรือ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ อาวุโสลำดับ 5

โดยเฉพาะสิ่งสำคัญมากที่สุด คือ จะตอบสังคมอย่างไร???

การให้ รอง ผบ.ตร. และจเรตำรวจแห่งชาติ ทั้ง 5 ราย ส่งประวัติ ผลงาน และแสดงวิสัยทัศน์ มาเพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาเสนอชื่อแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. จึงเป็นกำแพง เป็นเชือก ให้ พล.ต.อ.วัชรพล พิงหลัง และสามารถนำมาอ้างว่า ได้จัดทำกระบวนการแต่งตั้งสมบูรณ์ ครบถ้วน และโปร่งใส่ เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีสิทธิทุกคนแสดงความรู้ ความสามารถ

ทั้งๆ ที่ชื่อ “พล.ต.อ.สมยศ” ถูกล็อกเอาไว้ตั้งแต่ต้น!!!

แม้ช่วงแรกแคนดิเดต “ผบ.ตร.” นอกจาก พล.ต.อ.สมยศ แล้ว ยังมี “อ.เอก” พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. ดูแลด้านป้องกันปราบปรามอาชญากรรม อยู่อีกหนึ่งราย เพราะภาพความเป็นกลาง ไม่มีสายสัมพันธ์กับขั้วการเมืองเก่าเหมือนอย่าง พล.ต.อ.พงศพัศ ที่เคยสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทย และเคยลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ในสีเสื้อพรรคเพื่อไทย พล.ต.อ.วรพงษ์ นายตำรวจที่เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันข้างกาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สมัยเป็น ศอ.รส. หรือ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ลูกเขย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตรองนายกฯสังกัดพรรคเพื่อไทย

ทว่า นานวันบทบาท พล.ต.อ.เอก ดูจะไม่ได้รับการโปรโมตจาก พล.ต.อ.วัชรพล เท่าที่ควร แถมตรงกันข้าม พล.ต.อ.วัชรพล ยังหันไปโปรโมต พล.ต.อ.สมยศ เพิ่มขึ้น ตั้งแต่เริ่มเข้ามารับหน้าที่รักษาการ ผบ.ตร. พล.ต.อ.วัชรพล ก็เปลี่ยนงานความรับผิดชอบเกี่ยวกับคดีหมิ่นสถาบันฯ ซึ่งถือเป็นงานนโยบายหลักของ คสช. จากเดิมที่ พล.ต.อ.เอก ทำคดีมาอย่างต่อเนื่อง มาเป็นมอบหมายให้ พล.ต.อ.สมยศ รับผิดชอบแทน

ทำให้ พล.ต.อ.เอก ต้องสร้างผลงานในหน้างานด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมของตัวเอง ตรงกันข้าม พล.ต.อ.สมยศ มีผลงานอย่างต่อเนื่อง ยิ่งหันมาดูจากปัจจัยเกื้อหนุนแรงผลักดันของ “อ.อ๊อด” จะโดดเด่นแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ นอกจากเป็นลูกน้องเก่าใกล้ชิด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. ซึ่งอยู่ในสายเดียวกับ พล.ต.อ.วัชรพล ที่ต้องเป็นผู้เสนอชื่อ ผบ.ตร. คนใหม่แล้ว ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ ยังเพิ่งเซ็นคำสั่งยกเลิกโทษออกจากราชการให้พล.ต.อ.พัชรวาท ด้วย รวมทั้งมีข้อมูลจากผู้หลักผู้ใหญ่ในแวดวงสีกากี

ว่ากันว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เคยเอ่ยปากสนับสนุน “พล.ต.อ.สมยศ” เต็มที่ น้ำหนักการนั่งเก้าอี้ ผบ.ตร. ของ พล.ต.อ.สมยศ จึงสูงเพิ่มขึ้นเรื่อง ต่างจาก “อ.เอก” ที่แม้จะเคยเป็นศิษย์เก่ารุ่นน้อง “บิ๊กตู่” สมัยเรียนมัธยมโรงเรียนวัดนวลนรดิศก็ตาม

แถมด้วยคุณสมบัติส่วนตัว “พล.ต.อ.สมยศ” ที่เกษียณอายุราชการปี 2558 เร็วกว่า พล.ต.อ.เอก ที่เกษียณอายุราชการปี 2559 หรือมากกว่า 1 ปี ทุกอย่างจึงลงล็อกแบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น หาก พล.ต.อ.วัชรพล จะเสนอชื่อ พล.ต.อ.สมยศ นั่งเก้าอี้ ผบ.ตร. คนที่ 10 ก็จะอยู่ในตำแหน่งเพียงปีเดียว จากนั้น พล.ต.อ.เอก ก็สามารถก้าวขึ้น ผบ.ตรงคนที่ 11 ต่อจาก พล.ต.อ.สมยศ เพื่อนั่งเก้าอี้เบอร์ 1 กรมปทุมวันอีก 1 ปี ตามทำนองสมบัติแบ่งกันชม

ไม่ขัดใจ พล.อ.ประวิตร พี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ และขณะเดียวกัน ก็ไม่ทำลายน้ำใจรุ่นน้องวัดนวลฯ เรียกว่าสมประโยชน์กันทุกฝ่าย

ดังนั้น ชื่อ ผบ.ตร. คนที่ 10 ณ เวลานี้ คือ “พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง” เพื่อนร่วมรุ่น พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่กำลังเป็นแคนดิเดต ปลัดกระทรวงกลาโหม หรือ ผบ.ทบ. เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม แม้ทุกอย่างจะลงล็อกลงตัวแปะชื่อ “พล.ต.อ.สมยศ” ไปแล้ว แต่เมื่อการประชุม ก.ต.ช. ยังไม่สิ้นสุดลง ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ก็ไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้ ก็ต้องเผื่อใจ ณ จุดนี้ ไว้ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น