ศาลเลื่อนอ่านฎีกา คดี “เสี่ยตลาดพงษ์เพชร” ปลอมตั๋วเงิน 4 ฉบับ มูลค่า 1,300 ล้านบาทเสนอขายแก่ธนาคารเมื่อปี 40 ไปเป็นวันที่ 20 ส.ค.นี้ เหตุจำเลยยังไม่ได้รับหมาย
ที่ห้องพิจารณา 904 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (2 ก.ค.) ศาลนัดอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาคดีหมายเลขดำ อ.2190/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายพงษ์ไพโรจน์ รัชตะทรัพย์ อายุ 67 ปี เจ้าของและผู้บริหารตลาดพงษ์เพชร เป็นจำเลยในความผิดฐานปลอมและใช้ตั๋วเงินปลอม
โจทก์ฟ้องระบุพฤติการณ์จำเลยสรุปว่า เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2540 จำเลยในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัท พงษ์เพชรแลนด์ จำกัด ได้ปลอมตั๋วสัญญาใช้เงิน 4 ฉบับ เป็นเงินจำนวน 1,315 ล้านบาท โดยจำเลยได้ปลอมลายมือชื่อบุคคลในครอบครัวรวม 6 คน ลงในช่องผู้รับรอง (อาวัล) ของตั๋วสัญญาใช้เงินทั้ง 4 ฉบับ เพื่อยินยอมและผูกพันในการใช้เงินให้แก่ธนาคาร มหานคร จำกัด (มหาชน) เพื่อให้ธนาคารฯ หรือผู้หนึ่งผู้ใดพบเห็นจนหลงเชื่อว่าตั๋วสัญญาทั้ง 4 ฉบับเป็นตั๋วสัญญาที่แท้จริงที่ออกให้แก่ธนาคารฯ แล้วจำเลยได้นำตั๋วสัญญาใช้เงินไปเสนอขายต่อธนาคารฯ สร้างความเสียหายแก่ธนาคาร เป็นความผิดกฎหมาย เหตุเกิดที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ และที่อื่นเกี่ยวพันกัน ต่อมาวันที่ 8 มิ.ย. 2552 พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่นได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ แต่ให้การรับสารภาพในชั้นศาล
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2554 ว่า จำเลยกระทำผิดฐานใช้ตั๋วเงินปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 วรรคแรก ประกอบมาตรา 266 (4) ให้จำคุก 6 ปี โดยลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ 3 ปี ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลอุทธรณ์รอการลงโทษ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 2556 เนื่องจากเห็นว่าพฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง ยังไม่เพียงพอที่จะรอการลงโทษ และต่อมาจำเลยยื่นฎีกา
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลานัดปรากฏว่าจำเลยไม่ได้เดินทางมาศาล เนื่องจากจำเลยยังไม่ได้รับหมายศาลแจ้งนัดอ่านคำพิพากษาในวันนี้ ศาลจึงนัดฟังคำพิพากษาอีกครั้งในวันที่ 20 ส.ค.นี้ เวลา 09.00 น.