xs
xsm
sm
md
lg

จำคุก 7 เดือน รอลงอาญา อดีตลูกน้องเสธ.แดงพกอาวุธปืน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

จ.ส.อ.ณัฏฐ์สิทธิ์  สุวรรณราช อดีตลูกน้อง เสธ.แดง
ศาลอาญาจำคุก 7 เดือน ปรับ 2,500 บาท อดีตลูกน้องเสธ.แดงพกอาวุธปืนของคนอื่น โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี ส่วนความผิดฐานมีเสื้อเกราะกันกระสุนให้ยกฟ้อง หลังโดนกองปราบฯ จับกุมอาวุธปืนและเสื้อเกราะพร้อมเสธ.แดง เมื่อปี 46

ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (27 มิ.ย.) ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดี อ.3224/2550 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล อดีตผู้ทรงคุณวุฒิทหารบก (เสียชีวิต) จ.ส.อ.ณัฏฐ์สิทธิ์ หรือ ธนันชัย สุวรรณราช สังกัดกองพันทหารม้าที่ 3 รักษาพระองค์ และ ส.อ.บุญโฮม หงส์อ่อน เป็นจำเลยในความผิดฐาน ร่วมกันมียุทธภัณฑ์หวงห้ามไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530, มีและพาอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน วัตถุระเบิด และดอกไม้เพลิง ฯ พ.ศ. 2490

คำฟ้องโจทก์ระบุว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2546 เวลากลางคืนหลังเที่ยง จำเลยทั้งสามได้ร่วมกันมีเสื้อเกราะกันกระสุน จำนวน 4 ตัว ซึ่งเป็นยุทธภัณฑ์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากปลัดกระทรวงกลาโหม อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จำเลยที่ 1 ได้พาอาวุธปืนพกสั้นออโตเมติก ขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก จำเลยที่ 2 ได้พาอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก มีเครื่องหมายทะเบียนกท 4416643 ของจำเลยที่ 2 ที่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้พร้อมกระสุนปืน ขนาด 9 มม.จำนวน 13 นัด ซองกระสุนปืน 1 ซอง จำเลยที่ 3 ได้มีอาวุธปืนพกสั้นขนาด 11 มม.จำนวน 1 กระบอก มีเครื่องหมายทะเบียน กท 2706362 ของผู้อื่นที่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้ พร้อมกระสุนปืน ขนาด 11 มม.จำนวน 22 นัด ซองกระสุนปืน 3 ซองติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควร และไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิดที่แขวงและเขตดินแดง ซึ่งจำเลยที่ 1 เสียชีวิตแล้ว จึงเป็นอันยุติและให้จำหน่ายคดีในส่วนของจำเลยที่ 1 ออกจากสารบบ

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 2 รับสารภาพข้อหามีและพาอาวุธปืนซึ่งเป็นของตนเอง ไปในเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำเลยที่ 3 รับสารภาพข้อหามีและพาอาวุธปืนซึ่งเป็นของผู้อื่นไปในเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ปฏิเสธข้อหามีเสื้อเกราะกันกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีประเด็นต้องวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 2-3 กระทำผิดฐานร่วมกันมีเสื้อเกราะกันกระสุนไว้ในครอบครองหรือไม่ เห็นว่าพยานโจทก์เบิกความว่า จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของรถยนต์ และพบเสื้อเกราะกันกระสุนอยู่ภายในรถยนต์ของจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 เป็นเพียงคนขับรถ และจำเลยที่ 3 เป็นผู้ติดตาม นอกจากนี้พยานโจทก์ยังเบิกความอีกว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดหาเสื้อเกราะให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาใช้

เห็นว่าการที่พยานโจทก์เบิกความยืนยันว่าจำเลยที่ 2 -3 อยู่ในรถยนต์คันเกิดเหตุ ซึ่งภายในมีเสิ้อเกราะกันกระสุนอยู่ โดยไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าจำเลยทั้งสองนำมาใช้ เคยสวมใส่ หรือเกี่ยวข้องกับเสื้อเกราะกันกระสุนอย่างไร พยานหลักฐานจึงไม่เพียงพอให้รับฟังได้ว่าจำเลยที่ 2-3 กระทำผิดฐานร่วมกันมีเสิ้อเกราะกันกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้ยกฟ้อง

สำหรับความผิดฐานมีและพาอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่จำเลยที่ 2-3 ให้การรับสารภาพนั้น พิพากษาว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดฐานมีอาวุธปืนฯ ปรับ 2,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 3 มีความผิดฐานมีอาวุธปืนฯ จำคุก 8 เดือน ปรับ 4,000 บาท และความผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง โดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นเวลา 6 เดือน ปรับ 1,000 บาท รวมจำคุก 14 เดือน ปรับ 5,000 บาท คำรับสารภาพเป็นประโยชน์ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับจำเลยที่ 2 จำนวน 1,000 บาท จำเลยที่ 3 คงจำคุก 7 เดือน ปรับ 2,500 บาท แต่จำเลยที่ 3 ไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน จึงเห็นควรให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี และให้ริบของกลางคืนเจ้าของ

ส.อ.บุญโฮม หงส์อ่อน

กำลังโหลดความคิดเห็น