เลื่อนอ่านฎีกา “เสธ.น็อต” และลูกน้องรวม 3 คน ค้ายาไอซ์ ศาลชั้นต้นจำคุกเสธ.น็อต 41 ปี ปรับเงิน 3 ล้าน เหตุเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไม่ได้เบิกตัวจำเลยที่ 1 นัด ศาลนัดอีกครั้ง 3 ก.ค.นี้
ที่ห้องพิจารณา 913 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก วันนี้ (27 มิ.ย.) ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีหมายเลขดำ อย.2154/2550 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดียาเสพติด 2 เป็นโจทก์ฟ้อง พ.ต.ชานนท์ หรือเสธ.น็อต ชิณวงศ์ อายุ 49 ปี อดีตนายทหารประจำ บก.ทหารสูงสุด ช่วยราชการส่วนหน้า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.ยะลา นายสุขุม หรือเบียร์ เจือแจ่มจันทร์ อายุ 37 ปี และนายวิฑูรย์ นิยกิจ อายุ 50 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐาน พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 สมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) เพื่อจำหน่ายและจำหน่าย จัดหาที่พำนัก หรือที่ซ่อนเร้นเพื่อช่วยเหลือแก่ผู้กระทำผิด เสพยาเสพติด มีเมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีน (ยาอี) ไว้ในครอบครอง ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม
โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2550 สรุปว่า จำเลยทั้งสามกับพวกที่ถึงแก่ความตาย บังอาจกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายบทหลายกรรมต่างกัน คือ เมื่อระหว่างวันที่ 20 ก.พ. 2550 ถึงวันที่ 11 เม.ย. 2550 เวลากลางวัน วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยทั้งสามร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) 7 ถุง น้ำหนัก 12.772 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำเลยร่วมกันจำหน่ายโดยการขายยาไอซ์ 2 ถุง น้ำหนัก 1.010 กรัม ให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อไปในราคา 6,000 บาท จำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดหาห้องเลขที่ 305 เดอะลิฟวิ่งรูม อพาร์ตเมนต์ แขวงและเขตดินแดง กทม. เพื่อให้ความสะดวกในการมั่วเสพยาไอซ์ และเป็นที่ประชุมสำหรับตกลงในการนำยาเสพติดไปจำหน่าย จำเลยที่ 1 ยังมียาอี 1 ซอง น้ำหนัก 0.250 กรัม และร่วมกันเสพ เจ้าพนักงานจับจำเลยทั้งสามพร้อมยาไอซ์ อุปกรณ์การเสพ โทรศัพท์มือถือ เป็นของกลาง นอกจากนี้ จำเลยที่ 2 ยังปลอมแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์อีกด้วย
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2552 ให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 และ 3 เป็นเวลา 58 ปี ปรับคนละ 3.6 ล้านบาท ฐานร่วมกันมียาไอซ์เพื่อจำหน่ายและจำหน่าย และร่วมกันเสพยาเสพติด ส่วนจำเลยที่ 2 มีความผิดฐานร่วมกันมียาไอซ์ เพื่อจำหน่ายและจำหน่าย และปลอมหรือใช้เอกสารราชการปลอม รวมจำคุกจำเลยที่ 2 ไว้เป็นเวลา 15 ปี 18 เดือน ปรับ 9 แสนบาท จำเลยทั้งสามอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2554 ให้จำเลยที่ 1 และ 3 จำคุกคนละ 41 ปี ปรับคนละ 3 ล้านบาท ฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้เพื่อครอบครองและจำหน่าย และร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน ส่วนจำเลยที่ 2 ให้ลดโทษหนึ่งในสามทุกกระทงความผิด รวมจำคุกจำเลยที่ 2 ทั้งสิ้น 13 ปี 20 เดือน ปรับ 8 แสนบาท ต่อมาจำเลยทั้งสามฎีกา
โดยในวันนี้ เมื่อถึงเวลานัดปรากฏว่า เจ้าหน้าที่กรมราชทันฑ์ไม่ได้เบิกตัว พ.ต.ชานนท์ จำเลยที่ 1 มาฟังคำพิพากษา ศาลจึงมีคำสั่งเลื่อนอ่านคำพิพากษาไปเป็นวันที่ 3 ก.ค. 2557 เวลา 09.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ พ.ต.ชานนท์ หรือเสธ.น็อต จำเลยที่ 1 ยังเป็นนักโทษคดีเด็ดขาดที่ศาลฎีกาพิพากษาเมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2556 ให้ประหารชีวิตในคดีหมายเลขดำที่ อ.2419/2550 ฐานร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงาน พยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน จากเหตุยิงปะทะระหว่างพวกจำเลยกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าจับกุมที่เดอะลิฟวิ่งรูม อพาร์ตเมนต์ เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2550 จนเป็นเหตุ ด.ต.มาโนช ศรีละคร และ ส.ต.ท.ไสว อาจหนองหว้า เจ้าพนักงานที่ร่วมจับกุมเสียชีวิต ส่วนนายสุขุม และนายวิฑูรย์ จำเลยที่ 2-3 ให้ยกฟ้อง