เลื่อนฟังฎีกา “เสี่ยตลาดพงษ์เพชร” หลอกขายตั๋วเงินปลอม

ศาลเลื่อนฟังฎีกา “เสี่ยเจ้าของตลาดพงษ์เพชร” ใช้ตั๋วเงินปลอมหลอกขายให้ธนาคาร เสียหายกว่า 1 พันล้าน อ้างป่วยเบาหวาน เส้นเลือดในสมองแตก ศาลนัดอีกครั้ง 13 พ.ย.นี้

ที่ห้องพิจารณา 904 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (4 พ.ย.) ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีหมายเลขดำ อ.2190 /2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพงษ์ไพโรจน์ รัชตะทรัพย์ อายุ 67 ปี เจ้าของและผู้บริหารตลาดพงษ์เพชร เป็นจำเลยในความผิดฐานปลอมและใช้ตั๋วเงินปลอม

อย่างไรก็ดี เมื่อถึงเวลานัด บุตรสาวของนายพงษ์ไพโรจน์ พร้อมด้วยนายตรีชาติ อินทรคำ ทนายความ ได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนนัดการอ่านคำพิพากษาฎีกาออกไปก่อน เนื่องจากจำเลยเข้าพักรักษาการเบาหวาน ความดันโลหิตสูง พร้อมทั้งมีอาการเส้นเลือดในสมองแตก โดยนำใบรับรองแพทย์มาแถลงยืนยันต่อศาล ขณะที่ศาลพิจารณาแล้ว ให้เลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาได้ 7 วัน โดยให้จำเลย มาฟังคำพิพากษาฎีกาอีกครั้งในวันที่ 13 พ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ศาลได้อนุญาตให้เลื่อนฟังคำพิพากษาฎีกามาครั้งหนึ่งแล้ว โดยเมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ทนายความได้นำใบรับรองแพทย์มาแสดงต่อศาลว่าจำเลยมีอาการป่วยด้วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และติดเชื้อในกระแสเลือด มีอาการวิงเวียนศีรษะ ต้องนอนพักรักษาตัว

คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2540 จำเลยในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท พงษ์เพชรแลนด์ จำกัด ได้ปลอมลายมือชื่อบุคคลในครอบครัวรวม 6 คนรับรองอาวัลตั๋วสัญญาใช้เงิน 4 ฉบับ รวมมูลค่า 1,315 ล้านบาท เพื่อให้ธนาคารมหานคร จำกัด (มหาชน) หลงเชื่อว่าตั๋วสัญญาทั้ง 4 ฉบับที่แท้จริงซึ่งออกให้แก่ธนาคาร แล้วจำเลยนำตั๋วสัญญาดังกล่าวไปเสนอขายต่อธนาคาร ต่อมาวันที่ 8 มิ.ย. 2552 พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่นได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ แต่ให้การรับสารภาพในชั้นศาล ซึ่งศาลชั้นต้น พิพากษาให้จำคุกฐานใช้ตั๋วเงินปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 วรรคแรก ประกอบมาตรา 266 (4) เป็นเวลา 6 ปี จำเลยรับสารภาพจึงลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุกไว้ 3 ปีโดยไม่ให้รอการลงโทษ ขณะที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ซึ่งจำเลยได้ยื่นฎีกาเพื่อขอให้ศาลพิจารณารอการลงโทษจำเลย