รอง ผบ.ตร.เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุมที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมกำชับตำรวจทุกหน่วยห้ามปล่อยปละละเลยให้มีบ่อนในพื้นที่ย้ำโดนเด้งแน่
วันนี้ (28 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง รอง ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุม พร้อมด้วย พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผช.ผบ.ตร. รรท.ผบช.น พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต รอง ผบช.น. รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1-9 และหน่วยควบคุมฝูงชนทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง โดยใช้เวลาประชุม 2 ชั่วโมง
พล.ต.อ.สมยศเปิดเผยหลังการประชุมว่า จากที่ได้รับมอบหมายในเรื่องของการดูแลด้านความมั่นคงจึงมาทำดารหารือและทำความเข้าใจกับทุกหน่วยว่าควรจะมีแนวทางการปฏิบัติอย่างไร โดยที่ผ่านมา พล.ต.ท.จักรทิพย์ได้ประชุมหารือกับแม่ทัพภาคที่ 1 โดยการวางแนวทางร่วมกันเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารปฏิบัติหน้าที่และแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ทั้งนี้ได้มอบแนวทางปฏิบัติ โดยเน้นให้สนับสนุน คสช.เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น และการทำความเข้าใจเกี่ยวกับเบี้ยงเลี้ยงผู้ใต้บังคับบัญชา ที่ผ่านมาประสบปัญหาเกี่ยวกับจ่ายเบี้ยเลี้ยง รวมทั้งผู้ใต้บังคับบัญมีความจำเป็นจะต้องใช้เงิน จึงจัดมอบเงินเบี้ยเลี้ยงส่วนหนึ่งแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาแล้ว
รอง ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า ในเรื่องความมั่นคงที่รับผิดชอบ คาดว่าจะไม่มีปัญหาความรุนแรงเกิดขึ้น เนื่องจากทุกวันนี้มีไม่กี่จุด คือผู้ต่อต้านการทำรัฐประหารเท่านั้น ในเรื่องนี้เชื่อว่า หากเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารทำความเข้าใจต่อประชาชน หรือหัวหน้า คสช.ทำสิ่งที่มีประโยชน์ สามารถดำเนินการจ่ายเงินแก่ชาวนาเรื่องจำนำข้าวได้ ในเวลาต่อไปประชาชนจะยอมรับได้แน่นอน
รอง ผบ.ตร.กล่าวทิ้งท้ายว่า ในทุกวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องสนับสนุนการทำงานของทหาร ทหารจะเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย และตำรวจพร้อมที่จะทำหน้าที่ร่วมกับทหาร เบื้องต้นได้ทำความเข้าใจกับผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดูแลกำลัง รวมทั้งกำชับว่าทหารกับตำรวจคือพี่น้องกัน จะต้องทำงานร่วมกันเพื่อความผาสุขของประชาชน
ด้าน พล.ต.ท.จักรทิพย์กล่าวว่า ขณะนี้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 28 กองร้อย โดยปกติแล้วถ้าเกิดเหตุการณ์รุนแรงจะรวมกำลังเจ้าหน้าที่ไว้ที่ บช.น. แต่ปัจจุบันไม่มีความรุนแรงมาก จึงใช้กำลังควบคุมฝูงชนของ บก.น.1-9 ส่วน อคฝ.จะเตรียมกำลังไว้สำรองเผื่อมีสถานการณ์ฉุกเฉิน ส่วนคำสั่งโยกย้ายนายตำรวจระดับชั้นผู้ใหญ่นั้น เชื่อว่าไม่มีผลกระทบต่อกำลังแน่นอน เนื่องจากมีการปรับโยกย้ายตลอดเวลาเพื่อความเหมาะสม หรือตามนโยบายที่กำหนด เพราะฉะนั้นผู้ใต้บังคับบัญชาต้องเข้าใจในส่วนนี้อยู่แล้ว
ผช.ผบ.ตร. รรท.ผบช.น.กล่าวอีกว่า วันนี้นายวัชระ เพชรทอง ได้พูดถึงการเร่งรัดคดีอื่นๆ รวมถึงคดีนายเอกยุทธ อัญชันบุตร ซึ่งจะต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน หากมีพยานหลักฐานใหม่สามารถมาแจ้งได้ไม่ได้ปิดกั้น
ทั้งนี้ คสช.และสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เน้นย้ำห้ามเล่นการพนัน หากมีบ่อนการพนัน ตู้ม้า ฯลฯ จะพิจารณาข้อบกพร่องและจะปรับย้ายทันที
