ปัตตานี - ผู้ว่าฯ ปัตตานี เรียกฝ่ายความมั่นคงถกแผนรักษาความปลอดภัยเมืองปัตตานี เน้นเข้มข้าราชการครู และนักเรียนเตรียมรับเปิดเทอมนี้ พร้อมทั้งดึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น เข้ามีร่วมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน
วันนี้ (12 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลากลางจังหวัดปัตตานี นายวิทยา พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วย พล.ต.ชลิต เมฆมุกดา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ร่วมแถลงแผนรักษาความปลอดภัยเขตเมือง และลงนามในบันทึกความร่วมมือของ 3 ฝ่าย ในการกำหนดมาตรการคุ้มครองดูแลประชาชนในพื้นที่ให้เกิดความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน โดยเฉพาะข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ที่จะมีการเปิดภาคเรียนที่ 2 ในช่วงกลางเดือนนี้ และที่ประชุมได้จัดทำเส้นทางปลอดภัยใน 12 เส้นทางหลักของทุกอำเภอ เพื่อให้ข้าราชการ และประชาชนที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องใช้รถใช้ถนนทำภารกิจต่างๆ สามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
พร้อมกันนี้ ทั้ง 3 ฝ่าย ได้ปฏิบัติการรุกทางการเมือง ใน 42 หมู่บ้านเป้าหมายของจังหวัด โดยนำร่องในพื้นที่ 12 หมู่บ้าน ให้เป็นหมู่บ้านปลอดภัย ที่มีการจัดตั้งคณะกรรมการหมู่บ้าน และมีบูรณาการทำงานของ 3 ฝ่าย ซึ่งมีการจัดตั้งจุดตรวจจุดสกัด และสร้างความเข้าใจกับประชาชน โดยการดึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น เข้ามามีส่วนร่วมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน ก็จะสามารถลดปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้น และประชาชนก็จะสามารถใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติได้
วันนี้ (12 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลากลางจังหวัดปัตตานี นายวิทยา พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วย พล.ต.ชลิต เมฆมุกดา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ร่วมแถลงแผนรักษาความปลอดภัยเขตเมือง และลงนามในบันทึกความร่วมมือของ 3 ฝ่าย ในการกำหนดมาตรการคุ้มครองดูแลประชาชนในพื้นที่ให้เกิดความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน โดยเฉพาะข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ที่จะมีการเปิดภาคเรียนที่ 2 ในช่วงกลางเดือนนี้ และที่ประชุมได้จัดทำเส้นทางปลอดภัยใน 12 เส้นทางหลักของทุกอำเภอ เพื่อให้ข้าราชการ และประชาชนที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องใช้รถใช้ถนนทำภารกิจต่างๆ สามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
พร้อมกันนี้ ทั้ง 3 ฝ่าย ได้ปฏิบัติการรุกทางการเมือง ใน 42 หมู่บ้านเป้าหมายของจังหวัด โดยนำร่องในพื้นที่ 12 หมู่บ้าน ให้เป็นหมู่บ้านปลอดภัย ที่มีการจัดตั้งคณะกรรมการหมู่บ้าน และมีบูรณาการทำงานของ 3 ฝ่าย ซึ่งมีการจัดตั้งจุดตรวจจุดสกัด และสร้างความเข้าใจกับประชาชน โดยการดึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น เข้ามามีส่วนร่วมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน ก็จะสามารถลดปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้น และประชาชนก็จะสามารถใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติได้
