ศาลอาญายกคำร้องไม่ถอนประกัน “หมอระวี-ทศพล” แกนนำเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย นำมวลชนบุกกระทรวงพลังงานรอบสอง แต่กำหนดเงื่อนไขเพิ่มห้ามปิดล้อมสถานที่ราชการ-รัฐวิสาหกิจอีก
วันนี้ (2 พ.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 906 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งที่ ร.ต.อ.เอกรัฐ ดวงปัญญา พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาเพิกถอนการปล่อยชั่วคราว นายแพทย์ระวี มาศฉมาดล และนายทศพล แก้วทิมา แกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย (กคป.) จำเลยที่ 1 และ 2 คดีหมายเลขดำ อ.831/2557 ได้ร่วมกับผู้ชุมนุมฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กระทำการให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง, บุกรุกในเวลากลางคืนที่บุกปิดล้อมกระทรวงพลังงานวันที่ 13 ม.ค. 2557 ภายหลังจากที่จำเลยทั้งสองปรากฏพฤติการณ์ล่าสุดนำผู้ชุมนุมไปบุกล้อม กระทรวงพลังงานอีกครั้งเมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2557 เวลาประมาณ 10.00 น.
โดยในวันนี้นายแพทย์ระวี และนายทศพล เดินทางมาที่ศาลพร้อมด้วยทนายความ โดยมีกลุ่มมวลชน กคป.มาให้กำลังใจประมาณ 100 คน
ศาลพิเคราะห์คำร้อง คำคัดค้านของโจทก์และจำเลยแล้วได้ความว่า เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2557 เวลา 09.30 น. จำเลยที่ 1 และ 2 กับพวกกลุ่มผู้ชุมนุม กคป.ได้ไปชุมนุมที่บริเวณประตู 8 ของทางเข้าอาคารเอนเนอร์ยี คอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของกระทรวงพลังงาน โดยเรียกร้องขอเข้าไปตั้งเวทีปราศรัยภายในอาคาร แต่ภายหลังได้มีการเจรจาตกลงกับเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งเป็นผู้บัญชาเหตุการณ์ดูแลกระทรวงพลังงาน โดยมีการตกลงกันว่ากลุ่มกคป.จะไม่เข้าไปข้างในตัวอาคาร แต่ขอเข้าไปติดธงชาติ ป้ายผ้า และรื้อแท่งแบริเออร์ที่ปิดกั้นออก และจะเดินทางกลับทันทีในเวลา 15.00 น. ระหว่างที่ทำการรื้อแท่งแบริเออร์ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าห้ามปราบหรือว่ากล่าวแต่อย่างใด
เห็นว่าตามพยานหลักฐานการกระทำของจำเลยที่ 1 และ 2 เป็นการชุมนุมเพื่อเรียกร้องทวงคืนพลังงานไทย แม้จะมีความต้องการเข้าไปตั้งเวทีปราศรัยภายในอาคาร แต่เมื่อมีการเจรจาตกลงกันแล้วก็ได้ข้อสรุปเป็นที่ยุติ โดยจำเลยขอเพียงเข้าไปติดธงชาติ ป้ายผ้า และย้ายแท่งแบริเออร์เท่านั้น ซึ่งขณะที่จำเลยกระทำการดังกล่าวก็ไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าห้ามปรามหรือว่ากล่าวแต่อย่างใด อีกทั้งยังไม่ปรากฏพยานหลักฐานว่าพวกจำเลยกระทำการยุงยง ปลุกปั่น หรือกระทำการใดๆ ก่อความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองอันก่อให้เกิดอันตรายอื่นๆ ตามที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง ส่วนการที่จำเลยย้ายแท่งแบริเออร์จนถูกกระจกของตัวอาคารเสียหายนั้น ทางฝ่ายผู้เสียหายก็ได้แจ้งความดำเนินคดีแล้ว พยานหลักฐานของผู้ร้องจึงยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอว่าจำเลยที่ 1 และ 2 ยุยง ปลุกปั่น หรือกระทำการใดๆก่อความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองอันก่อให้เกิดอันตรายอื่นๆ ที่เป็นอันผิดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวของศาล จึงยกคำร้อง
อนึ่ง การกระทำของจำเลยที่ 1 และ 2 เป็นความสุ่มเสี่ยงที่จะผิดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราว จึงกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม ห้ามจำเลยที่ 1 และ 2 ปิดล้อมอาคาร สถานที่ราชการ และรัฐวิสาหกิจซึ่งทำให้เกิดความไม่สะดวกแก่พนักงานและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในอาคารนั้น รวมทั้งบุคคลที่มาติดต่อราชการ ซึ่งจะถือเป็นการผิดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวเป็นเหตุให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนประกันได้
ภายหลังนายแพทย์ระวีกล่าวว่า จากที่ศาลมีคำสั่งให้เพิ่มเงื่อนไขการประกันตัวนั้น น่าจะตีความได้ว่าหมายถึงการห้ามเคลื่อนขบวนไปปิดส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจครั้งใหม่ แต่ในส่วนที่ขณะนี้ กคป.ได้ตั้งเวทีไว้เดิมที่กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน บริเวณยศเส นั้นก็ยังจะตั้งอยู่ต่อไป ส่วนบริเวณหน้ากระทรวงพลังงานนั้น กลุ่ม กคป.ไม่ได้ตั้งเวทีการชุมนุมแล้ว ทั้งนี้ไม่ได้รู้สึกกังวลว่าพนักงานสอบสวนจะยื่นคำร้องอีกหรือไม่ เพราะในส่วนของเวที กคป.ที่บริเวณยศเสนั้น เราก็ไม่ได้ขัดขวางการเข้าออกของเจ้าหน้าที่ราชการที่จะเข้าไปปฏิบัติงาน หากจะเดินทางเข้าออกเราก็พร้อมเปิดทางให้ ขณะที่การเคลื่อนไหวของ กคป.นั้นก็เป็นการเรียกร้องเรื่องการปฏิรูปพลังงาน ซึ่งหากประชาชนที่เห็นด้วยกับการปฏิรูปก็สามารถมาร่วมแสดงพลังกับ กคป.ได้ที่บริเวณยศเส
ด้านนายทศพลกล่าวว่า มั่นใจว่าเวที กคป.ที่พวกเราอยู่เวลานี้พี่น้องประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย 100 เปอร์เซ็นต์ยังจะร่วมต่อสู้กันต่อไป เพราะเราตกผลึกทางความคิดแล้วว่านอกเหนือจากที่จะได้อำนาจอธิปไตยของประชาชนคืนมาแล้ว เรายังต้องให้ความสำคัญกับเรื่องพลังงานที่เป็นสมบัติของชาติด้วย