ศาลให้ประกัน “สกลธี” แกนนำ กปปส.- ห้ามยุยงปิดสถานที่ราชการ

ศาลอนุญาตให้ประกัน “สกลธี” แกนนำ กปปส. โดยตีราคาประกัน 6 แสนบาท แต่กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ห้ามยุยงนำประชาชนปิดล้อมสถานที่ราชการ

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (26 เม.ย.) พ.ต.ท.วัฒนา ศิริสูงเนิน พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่นำตัวนายสกลธี ภัททิยกุล อายุ 37 ปี แกนนำ กปปส. ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการ กรณีพามวลชนกลุ่ม กปปส. เข้าปิดล้อมสถานที่ราชการ ซึ่งถูกตำรวจจับกุมได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเวลากลางดึก วันที่ 26 เม.ย. ที่ผ่านมา หลังเดินทางกลับจากประเทศสหรัฐอเมริกา มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.- 7 พ.ค. พร้อมแจ้งข้อหาเพิ่ม คือยุยงปลุกปั่นให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป และกระทำการฐานเป็นกบฏเพิ่มด้วย เนื่องจากพนักงานสอบสวนยังสอบปากคำไม่เสร็จสิ้น โดยต้องรอสอบสวนพยานอีก 120 ปาก รอผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหามาประกอบสำนวน จึงขอฝากขังผู้ต้องหา ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธต่อสู้คดีทุกข้อหา

โดยคำร้องระบุว่า เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2556 ผู้ต้องหาได้เข้าร่วมกับกลุ่ม กปปส. โดยมี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับพวกเป็นแกนนำ ขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีการบริหารงานของรัฐบาล โดยปลุกระดมให้มวลชนออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านใช้นกหวีดเป่าเป็นสัญลักษณ์ต่อต้าน มีการแบ่งหน้าที่กันทำด้วยการปลุกระดมประชาชนทั่วประเทศ โดยการทำอารยะขัดขืน และกลุ่มผู้ชุมนุมบางกลุ่มได้เคลื่อนขบวนไปสำนักพระราชวัง เพื่อยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาจัดตั้งสภาประชาชน และทำการปฏิรูปการเมืองให้รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หยุดการบริหารราชการแผ่นดิน ขอให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานรัฐบาลประชาชน จากนั้นได้มีการยกระดับการเคลื่อนไหวให้มีการโค่นล้มรัฐบาลเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจบริหารประเทศไม่ได้ และให้มีการปฏิรูปการปกครองประเทศขึ้นใหม่ โดยมีการปลุกระดมประชาชนให้ออกมาร่วมชุมนุมและนำผู้ชุมนุมไปสถานที่ราชการสำคัญ และสถานีโทรทัศน์หลายแห่ง เพื่อปิดล้อมกดดันไม่ให้กระทำตามคำสั่งของรัฐบาล โดย นายสกลธี ผู้ต้องหาได้รับมอบหมายให้ดูแลเวทีชุมนุมแยกอโศก และนำมวลชนกว่า 10 คนขึ้นไปไปปิดล้อมสถานีไทยพีบีเอส รวมทั้งใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายบุคคลในสถานที่ดังกล่าว ยึดสถานที่ราชการหลายแห่งทั้งทำเนียบรัฐบาล และมีการตัดน้ำประปาตัดไฟ ใช้กุญแจล็อกสถานที่ราชการหลายแห่ง เพื่อกดดันไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าทำงาน

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนระบุด้วยว่า ขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงถึงขั้นประหารชีวิต และมีพยานหลักฐานพอสมควรเชื่อได้ว่าผู้ต้องหาจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่นอีก โดยไม่มีทีท่าหยุดการกระทำผิด หากได้รับการปล่อยชั่วคราวอาจจะหลบหนีได้ ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้

ขณะเดียวกัน ศาลพิเคราะห์คำร้องและหลักทรัพย์แล้วเห็นว่า แม้คดีนี้เป็นข้อหาความผิดอัตราโทษสูง และพนักงานสอบสวนคัดค้านการปล่อยชั่วคราว แต่ชั้นนี้ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธต่อสู้คดี และคดีอยู่ระหว่างการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน อีกทั้งหลักทรัพย์ที่ยื่นต่อศาลมีความมั่นคงน่าเชื่อถือ เชื่อว่าผู้ต้องหาจะไม่หลบหนี ศาลจึงมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาโดยตีราคาประกัน 6 แสน โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามผู้ต้องหาเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลและห้ามผู้ต้องหาไปกระทำการใดๆ อันเป็นการยุยง ปลุกปั่นให้ประชาชนล่วงละเมิด ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยเฉพาะห้ามผู้ต้องหานำผู้ชุมนุมเข้าไปปิดล้อมสถานที่ราชการอันเป็นการผิดเงื่อนไขของศาล โดยศาลอาจมีคำสั่งให้เพิกถอนการปล่อยชั่วคราวได้

ภายหลังได้ประกันตัว นายสกลธี เปิดเผยว่า การถูกจับกุมครั้งนี้ ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไรมาก โดยศาลกำหนดเงื่อนไขไว้ 2 ข้อ คือ ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ และห้ามยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวาย แต่มีข้อสังเกต คือ หมายจับออกตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. 2557 แต่ตนเดินทางออกนอกประเทศ เมื่อประมาณวันที่ 16 เม.ย. 2557 โดยขาไปก็สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ แต่กลับกลับเข้ามาก็โดนจับ ตอนนี้ก็รู้สึกสบายๆ แต่กังวลนิดหน่อยว่าจะทำให้กระบวนการต่อสู้เปลี่ยนไป แต่ก็ได้คุยกับแกนนำ กปปส. คนอื่นๆ แล้ว ส่วนที่ศาลห้ามยุยงปลุกปั่น ก็เห็นหลายคนก็มีเงื่อนไขดังกล่าว แต่ก็ยังสามารถขึ้นเวทีการชุมนุมได้ ตนก็จะพยายามระมัดระวังในการขึ้นเวทีการชุมนุม และจะปฏิบัติตามคำสั่งของศาล

ผู้สื่อข่าวถามว่า การจับกุมเป็นไปตามที่ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศอ.รส.ระบุว่าจะปฏิบัติการดาวล้อมเดือนจับกุมแกนนำ กปปส. หรือไม่ นายสกลธี กล่าวว่า คงไม่เกี่ยวกัน ที่ตนถูกจับกุมครั้งนี้คงเพราะความซวยมากกว่า เพราะเดินทางกลับเข้ามาประเทศ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ หากเจตนาจะหลบหนีคดีก็คงจะไม่เดินทางกลับมาประเทศไทยแล้ว แต่ก็บทเรียนให้แกนนำคนอื่นๆ ทราบว่าก็คงจะมีหมายจับแบบเดียวกับตนเอง ก็ขอให้ระมัดระวังตัวมากขึ้น อย่างไรก็ตามช่วงเย็นวันนี้ ตนก็จะไปปรากฎตัวเวที กปปส. ที่สวนลุมพินี