ดีเอสไอรวบหนุ่มรัสเซียพร้อมพวกชาวโมร็อกโก 3 ราย แฮกเกอร์เว็บสถาบันการเงินประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เสียหายกว่า 4 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หลบหนีมากบดานใช้ชีวิตหรูย่านพัทยา ก่อนส่งตัวกลับในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน
วันนี้ (18 มี.ค.) ที่อาคารซอฟต์แวร์ปาร์ก อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ที่ทำการชั่วคราวกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อวันที่ 18 มี.ค. พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผบ.สำนักกิจการต่างประเทศ ดีเอสไอ พร้อมด้วย ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงส์มณี ผอ.ส่วนคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ 1 ดีเอสไอ แถลงข่าวจับกุม นายฟาริด เอสเซ็บบาร์ อายุ 27 ปี สัญชาติรัสเซีย พร้อมพวกสัญชาติโมร็อกโก รวม 3 คน ผู้ต้องหาคดีแฮกเกอร์ระบบคอมพิวเตอร์และดัดแปลงหน้าเว็บไซต์ของสถาบันการเงินในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มูลค่าความเสียหายประมาณ 4,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ภายหลังสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ขอให้ดีเอสไอสืบสวนติดตามจับกุมแก๊งผู้ต้องหาส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน หลังทราบว่าได้หลบหนีเข้าประเทศไทยมากว่า 2 ปี
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผบ.สำนักกิจการต่างประเทศ ดีเอสไอ กล่าวว่า สืบเนื่องจากระหว่างปี 2554 เจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้รับแจ้งจากสถาบันการเงินหลายแห่งว่ามีกลุ่มแฮกเกอร์ได้เจาะข้อมูลเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ของสถาบันการเงิน เพื่อถ่ายโอนเงินออกไปยังบัญชีธนาคารปลายทางหลายแห่งในทวีปเอเชีย และได้ดัดแปลงหน้าหน้าเว็บไซต์ของสถาบันการเงิน เพื่อหลอกให้ผู้เสียหายเข้ามาทำธุรกรรมการเงินในเว็บไซต์ที่ทำปลอมขึ้นมา เมื่อคนร้ายได้ยูสเซอร์เนมและพาสเวิร์ดจะนำไปเข้าเว็บไซต์ของสถาบันการเงินดังกล่าวเพื่อถอนเงินของผู้เสียหายโอนไปยังบัญชีธนาคารในทวีปเอเชีย หรือใช้ซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ต มีมูลค่าความเสียหายมากว่า 4,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ก่อนทราบว่าคนร้ายจะเดินทางเข้าประเทศไทย โดยนำเงินที่ได้จากการกระทำความผิดใช้ชีวิตหรูหราใน กทม. พัทยา และแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย
ผบ.สำนักกิจการต่างประเทศ ดีเอสไอ กล่าวอีกว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ จึงได้มอบหมายให้ตนประสาน พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.สตม. พล.ต.ต.วราวุธ ทวีชัยการ ผบก.สส.สตม.จัดกำลังชุดสืบสวนออกติดตามจับกุม กระทั่งเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 57 ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงส์มณี ผอ.ส่วนคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ 1 ดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประวิทย์ ศิริธร รอง ผกก.2 บก.สส.สตม. ร.ต.อ.พัฒนพงษ์ โรจนวานิชกิจ รอง สว.กก.2 บก.สส.สตม. นำชุดสืบสวนร่วมกันจับกุมนายฟาริด เอสเซ็บบาร์ หัวหน้าแก๊งแฮกเกอร์พร้อมพวกรวม 3 คน ที่บริเวณใต้คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านถนนพระราม 9 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม. พร้อมด้วยของกลางเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา จำนวน 2 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เบื้องต้นจากการสอบสวนไม่ขอให้การ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.สส.สตม.ดำเนินคดีเพื่อส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์กล่าวว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2557 ศาลอาญาได้ไต่สวนกรณีดังกล่าว ก่อนพิพากษาให้ส่งตัวนายฟาริด เอสเซ็บบาร์ พร้อมพวกกลับไปดำเนินคดีในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน 2551 ซึ่งจะต้องส่งตัวกลุ่มผู้ต้องหาให้ทางการสวิตเซอร์แลนด์ ภายใน 90 วันนับแต่วันที่ศาลพิพากษาต่อไป ส่วนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ดีเอสไอจะส่งให้สำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตรวจพิสูจน์แล้ว ส่วนการติดตามเงินของผู้เสียหายคืนเป็นหน้าที่ของทางการทางการสวิตเซอร์แลนด์ และประเทศที่คดีเกิดขึ้น โดยดีเอสไอมีหน้าที่ติดตามจับกุมตัวกลุ่มผู้ต้องหาเพื่อส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนตามคำร้องขอของทางการสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้น จากการตรวจสอบทราบว่านายฟาริด เอสเซ็บบาร์ ศึกษาจากแฮกเกอร์จากอินเทอร์เน็ตตั้งแต่อายุ 7-8 ขวบ ซึ่งในเว็บวิกิพีเดียให้ข้อมูลว่าเป็นอาชญากรทางคอมพิวเตอร์ชื่อดังเคยแฮกเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ของสื่อมวลชนหลายแห่งในต่างประเทศ ซึ่งไมโครซอฟท์และเอฟบีไอ ต้องการตัวเช่นเดียวกัน โดยขณะนี้กลุ่มผู้ต้องหาแฮกเกอร์ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อรอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป
