นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยภายหลังผู้ชุมนุมกลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) เดินทางเข้ามาชุมนุมหน้าดีเอสไอ รวมถึงในบริเวณอาคาร เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าเป็นการยึดดีเอสไอแล้ว ว่า ตนได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย อย่างไรก็ตาม การบุกรุกเข้าไปในสถานที่ราชการถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งหากเป็นแผนปฏิบัติการปกติ หากมีผู้บุกรุกมาในดีเอสไอ ดีเอสไอจำเป็นต้องใช้กำลังเข้ารักษาความปลอดภัยและทรัพย์สิน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ รัฐบาลไม่ต้องการให้ใช้กำลังเข้าปะทะ ดีเอสไอจึงต้องปฏิบัติตามโดยให้กำลังถอยร่นออกไป แต่ดีเอสไอได้เก็บหลักฐานผู้นำกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดที่เข้ามาในบริเวณอาคารไว้หมดแล้ว เพื่อเตรียมไว้ดำเนินคดี
ทั้งนี้ กรณีที่ กปปส.ประกาศห้ามข้าราชการเข้ามาทำงานในสัปดาห์หน้า และจะมีการเคลื่อนไหวยึดสถานที่ราชการอย่างเต็มรูปแบบในวันพรุ่งนี้ (1 ธ.ค.) นั้น ในส่วนดีเอสไอคาดว่าจะให้ข้าราชการเข้ามาทำงานเป็นปกติ เพราะดีเอสไอมีหน้าที่ต้องรับเรื่อง สอบสวนคดีให้ประชาชน แต่จะประเมินสถานการณ์ในวันพรุ่งนี้เพื่อความชัดเจนอีกครั้ง
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวต่อว่า ดีเอสไอเตรียมสถานที่สำรองในการทำงานให้กับข้าราชการดีเอสไอแล้ว 2 แห่ง หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินไม่สามารถเข้าไปทำงานยังที่ตั้งได้ก็ให้ย้ายไปทำงานในสถานที่ชั่วคราว ซึ่งการตัดสินใจให้หยุดหรือไม่หยุดทำงานในส่วนของดีเอสไอสามารถประเมินสถานการณ์ได้เอง เนื่องจากมีสถานที่ตั้งแยกออกมาไม่เหมือนหน่วยงานอื่นของกระทรวงยุติธรรม อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ดีเอสไอได้ขนย้ายสำนวนคดี ของกลาง อาวุธ และอุปกรณ์สำคัญออกนอกพื้นที่ไปแล้ว
สำหรับสถานที่ทำงานสำรองที่กระทรวงยุติธรรมเตรียมไว้ คืออาคารซอฟแวร์ ปาร์ค ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นที่ตั้งเดิมของกระทรวงยุติธรรม
ทั้งนี้ กรณีที่ กปปส.ประกาศห้ามข้าราชการเข้ามาทำงานในสัปดาห์หน้า และจะมีการเคลื่อนไหวยึดสถานที่ราชการอย่างเต็มรูปแบบในวันพรุ่งนี้ (1 ธ.ค.) นั้น ในส่วนดีเอสไอคาดว่าจะให้ข้าราชการเข้ามาทำงานเป็นปกติ เพราะดีเอสไอมีหน้าที่ต้องรับเรื่อง สอบสวนคดีให้ประชาชน แต่จะประเมินสถานการณ์ในวันพรุ่งนี้เพื่อความชัดเจนอีกครั้ง
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวต่อว่า ดีเอสไอเตรียมสถานที่สำรองในการทำงานให้กับข้าราชการดีเอสไอแล้ว 2 แห่ง หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินไม่สามารถเข้าไปทำงานยังที่ตั้งได้ก็ให้ย้ายไปทำงานในสถานที่ชั่วคราว ซึ่งการตัดสินใจให้หยุดหรือไม่หยุดทำงานในส่วนของดีเอสไอสามารถประเมินสถานการณ์ได้เอง เนื่องจากมีสถานที่ตั้งแยกออกมาไม่เหมือนหน่วยงานอื่นของกระทรวงยุติธรรม อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ดีเอสไอได้ขนย้ายสำนวนคดี ของกลาง อาวุธ และอุปกรณ์สำคัญออกนอกพื้นที่ไปแล้ว
สำหรับสถานที่ทำงานสำรองที่กระทรวงยุติธรรมเตรียมไว้ คืออาคารซอฟแวร์ ปาร์ค ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นที่ตั้งเดิมของกระทรวงยุติธรรม