กรมบังคับคดี คาดการณ์โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภาคอีสาน ส่งผลให้ราคาที่ดิน จ.ขอนแก่น ปรับขึ้น 30% กลุ่มนักลงทุนแห่ซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อรองรับโครงการต่างๆ ในอนาคตต อุดรฯ ผอ.สนง.บังคับคดีอุดรฯ คาดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 57 เติบโตเพียง 5-10 เปอร์เซ็นต์ ชี้โครงการรถไฟฟ้ารางคู่ยังไม่ชัดเจน
วานนี้ (20 ธ.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่โรงแรมเซ็นทารา คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ขอนแก่น นายอรรถ อรรถานนท์ รองอธิบดีกรมบังคับคดี พร้อมด้วย นายสาธิต ศุภเมธี ผอ.สำนักงานบังคับคดี จ.ขอนแก่น และนายคมกริช สุขเสถียร ผอ.สำนักสำนักงานบังคับคดี จ.อุดรธานี ร่วมแถลงถึงผลการดำเนินงานของกรมบังคับคดี ภายหลังที่รัฐบาลมีโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภาคอีสานนั้นว่า โครงการดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจดีขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดขอนแก่น และอุดรธานี ซึ่งเป็นประตูสู่อีสานที่จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเข้ามาลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่จะต้องมีการซื้อขายที่ดินเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของโครงการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น หรืออาจจะเป็นการซื้อขายเพื่อเก็งกำไร ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาที่ดินมีการปรับเพิ่มขึ้น 30% ของมูลค่าราคาประเมินที่ดินที่ใช้ในการจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรมของสำนักงานที่ดิน ซึ่งสำนักบังคับคดีใช้เป็นราคาหลักในการประเมิน
นายสาธิต กล่าวว่า สถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดขอนแก่นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีการแข่งขันมากขึ้น หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายในการพัฒนาโครงสร้างขั้นพื้นฐานในภาคอีสาน โดยจะมีนักลงทุนเข้ามาลงทุนจังหวัดขอนแก่นมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากการซื้อขายทรัพย์ เนื่องจากจะมีการประมูลทรัพย์สูงกว่าราคากลางมาก บางครั้งสูงถึง 50% และมีกลุ่มนักลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อรองรับโครงการต่างๆ ในอนาคตด้วย
นอกจากนี้ โครงการพัฒนาโครงสร้างขั้นพื้นฐานของรัฐยังส่งผลให้ราคาที่ดินในเมืองจังหวัดขอนแก่น มีราคาสูงขึ้น และจากปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินตารางวาละ 10,000 บาท แต่ในปีนี้ราคาที่ดินสูงขึ้นถึง 20,000-30,000 บาทต่อตารางวา สำหรับผลการดำเนินงานของสำนักงานบังคับคดีจังหวัดขอนแก่น ในปีงบประมาณ 2556 (ตุลาคม 2555-กันยายน 2556) ขายทอดตลาดทรัพย์ได้กว่า 1,700 ล้านบาท โดยในขณะนั้น สำนักงานฯ มีทรัพย์รวมทั้งสิ้น 4,000 ล้านบาท ส่วนปี 2557 (ตุลาคม 2556-กันยายน 2557) คาดว่าขายทอดตลาดทรัพย์กว่า 1,000 ล้านบาท เหตุที่ยอดขายลดลงจากปี 2556 เนื่องจากทรัพย์ที่เหลืออยู่มีไม่มากนัก คิดเป็นมูลค่า 1,900 ล้านบาท คาดการณ์ว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวมในจังหวัดขอนแก่นจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 50% ซึ่งจะขยายตัวกว่าที่ผ่านมาไม่มากนักเพราะเศรษฐกิจยังทรงตัว
ด้าน นายคมกริช สุขเสถียร ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดี จังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ในส่วนพื้นที่จ.อุดรธานี หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายจะสร้างรถไฟรางคู่สายอีสาน ส่งผลให้ราคาที่ดินในจังหวัดอุดรธานี สูงขึ้นประมาณ 40-50% ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินว่างเปล่า โดยนักลงทุนจากส่วนกลางจะเข้ามากว้านซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างหมู่บ้านเป็นส่วนใหญ่ สำหรับอสังหาริมทรัพย์มือสอง ในช่วงปลายปีนี้ไม่คึกคักมากนัก เนื่องจากทรัพย์ที่มีอยู่ในขณะนี้เป็นทรัพย์ที่ไม่น่าสนใจมากนัก เพราะทรัพย์ดีๆ ได้ขายออกไปหมดแล้ว และทรัพย์ที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้ามากที่สุด คือ ทรัพย์ที่ยึดใหม่ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นที่ดินเปล่า หรือสิ่งปลูกสร้างประเภทบ้านเดี่ยว ซึ่งทางสำนักงานฯ เรามีทรัพย์ที่ค้างอยู่พร้อมอีก 30-40% คิดเป็นมูลค่า 100 ล้านบาท
ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดี จังหวัดอุดรธานี กล่าวต่อว่า ในช่วง 3 ไตรมาสของปี 2556 สำนักงานฯ สามารถขายทรัพย์ได้เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 800% หรือทำคดีได้ 163 เรื่อง ขายทอดตลาดทรัพย์ได้ 160 ล้านบาท โดยแบ่งทรัพย์ที่อยู่ระหว่างประกาศขาย 1,855 ล้านบาท ทรัพย์ที่ยังไม่ประกาศ 900 ล้านบาท ทรัพย์ที่อายัด 200 ล้านบาท และคาดว่าระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2556 จะมีรายได้ 100 ล้านบาท ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2556 (ตุลาคม 2555-ธันวาคม 2556) นั้น ขายทอดตลาดทรัพย์ได้ 507 ล้านบาท
ส่วนสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ในปี 2557 นั้น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดอุดรธานี จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 5-10% เนื่องจากโครงการรถไฟฟ้ารางคู่ยังไม่ชัดเจน ในส่วนของสำนักงานบังคับคดีจังหวัดอุดรธานี คาดว่าในปี 2557 (ตุลาคม 2556-กันยายน 2557) จะขายทอดตลาดทรัพย์ได้ 550 ล้านบาท
