ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กรมบังคับคดี เปิดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างบนเกาะภูเก็ต กว่า 5,000 ล้านบาท ที่พร้อมเปิดขายทอดตลาด มีทั้งบ้านพักตากอากาศ คอนโดฯ ริมทะเล และซีวิว น่าจะเป็นที่สนใจของนักลงทุนทั้งไทย และต่างชาติ เผยปีนีตั้งเป้าไว้ที่ 2,000 ล้านบาท
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (21 ก.พ.) ที่โรงแรมมิเลเนียม รีสอร์ท หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต นายอรรถ อรรถานนท์ รองอธิบดีกรมบังคับคดี พร้อมด้วย นายบุญธรรม ทองขลิบ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการบังคับคดีเพิ่ง นางอรัญญา ทองน้ำตะโก ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพ 4 และนายสำเนา สุวรรณสัมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวในโครงการสื่อมวลชนสัญจร ครั้งที่ 4 “ทรัพย์ถูกตา ราคาถูกใจ” โดยมีสื่อมวลชนจากส่วนกลาง และจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วม
นายอรรถ อรรถานนท์ รองอธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวว่า กรมบังคับคดีได้จัดโครงการสื่อมวลชนสัญจร ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว หลังจากที่ได้จัดไปที่พัทยา จ.ชลบุรี ที่จังหวัดขอนแก่น อุดรธานี ที่เชียงใหม่ เชียงราย และสุดท้ายที่จังหวัดภูเก็ต ภายใต้โครงการ ทรัพย์ถูกตา ราคาถูกใจ ทั้งนี้เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ทรัพย์ที่อยู่ในระหว่างการบังคับคดีให้ถึงมือนักลงทุนทั้งคนไทย และต่างชาติในพื้นที่ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค
ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้น เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก ทำให้การพัฒนาในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เติบโตสูงตามไปด้วย ทำให้ที่ดินในภูเก็ตขยับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยที่ดินในเมืองราคาจะเพิ่มขึ้นประมาณ 20% และตามชายหาด ริมทะเล ราคาจะขยับตัวเพิ่มสูงขึ้น 100-200% โดยทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการบังคับคดีในภูเก็ตนั้น มีมูลค่ารวมประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งที่ดินในตัวเมืองภูเก็ต ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างริมทะเล ติดชายหาด บนเนินเขาที่สามารถมองเห็นวิวทะเล พร้อมสิ่งปลูกสร้างที่เป็นห้องชุด โรงแรม วิลลา รีสอร์ต รวมอยู่ด้วย ซึ่งทรัพย์ที่มีอยู่ในขณะนี้ที่พร้อมจะนำออกขายทอดตลาดล้วนแต่เป็นทรัพย์ที่เหมาะสำหรับการลงทุนด้านการท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม รีสอร์ต บ้านพักตาอากาศ เป็นต้น
นายอรรถ ยังกล่าวถึงแผนงานของกรมบังคดีในปี 2557 นี้ ว่า กรมบังคับคดีมีแผนที่จะผลักดันทรัพย์ที่จะอยู่ระหว่างการบังคับคดีออกไปให้ได้ 100,000 ล้านบาท ด้วยการขายทอดตลาด ประนอมหนี้ ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และการไกล่เกลี่ยคดี เป็นต้น โดยในส่วนของการขายทอดตลาดนั้นจะเน้นไปสู่นักลงทุนทั้งคนไทย และต่างชาติโดยตรง โดยเฉพาะทรัพย์ที่อยู่ในพื้นที่สำคัญๆ ทั้งเชียงใหม่ พัทยา ขอนแก่น อุดรธานี พัทยา และภูเก็ต เพราะพื้นที่เหล่านี้เป็นจุดที่นักลงทุนให้การสนใจเข้ามาลงทุนจำนวนมาก
ด้านนายสำเนา สุวรรณสัมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ทรัพย์ในภูเก็ตที่อยู่ระหว่างการบังคับคดีมีมูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยทรัพย์เหล่านี้เป็นทรัพย์ที่มีความเหมาะสมในการลงทุนด้านการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รีสอร์ต วิลลา บ้านพักตากอากาศ เนื่องจากตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะกับการลงทุน อยู่ริมทะเล บนเนินเขาที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้อย่างสวยงาม รวมทั้งตั้งอยู่ใจกลางเมืองภูเก็ต ที่จะนำออกขายทอดตลาดในเร็วๆ นี้ ที่มีมูลค่าสูงๆ ทั้งหมด 7 แปลง ประกอบด้วย
แปลงที่ 1 ทรัพย์ตามคดีแพ่งของศาลจังหวัดภูเก็ต หมายเลขแดงที่ พบ.842/2554 เป็นอาคารชุดโครงการฉลองเบย์วิว ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 2 ไร่ 50 ตร.ว.ที่ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ราคาประเมิน 161 ล้านบาท คณะกรรมการกำหนดราคาทรัพย์ กำหนดราคาไว้ที่ 278 ล้านบาท
แปลงที่ 2 ทรัพย์ตามคดีอาญา หมายเลขดำที่ อ.2876/2554 เป็นโฉนดที่ดิน 11 แปลง นส.3 ก. 1 แปลง บนเนื้อที่ 69 ไร่ พร้อมอาคารสิ่งปลูกสร้าง 39 หลัง ราคาประเมิน 343 ล้านบาท ราคาประเมินของคณะกรรมการกำหนดราคาทรัพย์ 509 ล้านบาท เป็นที่ดินที่มีการปรับปรุงแล้ว เหมาะสำหรับการพัฒนาเป็นที่พักตากอากาศ
แปลงที่ 3 ทรัพย์ตามคดีศาบแพ่งกรุงเทพใต้ หมายเลขแดงที่ 829/2554 เป็นที่ดิน น.ส.3 ก.จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ 35 ไร่ 3 งาน 45 ตร.ว.พร้อมสิ่งปลูกสร้าง บางส่วนเป็นอาคารโรงแรม บางส่วนเป็นวิลลา ก่อสร้างไปแล้ว 12 หลัง ตั้งอยู่ที่บ้านอ่าวปอ ต.ป่าคลอก อ.ถลาง ภูเก็ต ราคาประเมิน 224 ล้านบาท ราคาประเมินของคณะกรรมการกำหนดราคาทรัพย์ 236 ล้านบาท
แปลงที่ 4 ทรัพย์ตามคดีแพ่งของศาลจังหวัดภูเก็ต หมายเลขแดงที่ 711/2551 เป็นที่ดินโฉนด 1 แปลง เนื้อที่ 29 ไร่ พร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นโครงอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 หลัง ก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ ราคาประเมิน 117 ล้านบาท ราคาประเมินของคณะกรรมการกำหนดราคาทรัพย์ 233 ล้านบาท และทรัพย์ตามคดีศาลแพ่งกรุงเทพใต้ หมายเลขแดงที่ 1694/2552 เป็นที่ดินโฉนดอยู่ติดกัน เนื้อที่ 5 ไร่ ราคาประเมิน 23 ล้านบาท
แปลงที่ 5 ทรัพย์ตามคดีแพ่งของศาลจังหวัดภูเก็ต หมายเลขแดงที่ 969/2551 เป็นที่ดินโฉนด 2 แปลง เนื้อที่ 16 ไร่ 2 งาน 68 ตร.ว.พร้อมสิ่งปลูกสร้างที่เป็นบังกะโล 36 หลัง ที่ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ราคาประเมิน 119 ล้านบาท ราคาประเมินของคณะกรรมการกำหนดราคาทรัพย์ 181 ล้านบาท
แปลงที่ 6 ทรัพย์ตามคดีแพ่งศาลจังหวัดภูเก็ต หมายเลขแดงที่ 1214/2551 ที่ดินโฉนด เนื้อที่ 2 ไร่ 2 งาน 33 ตร.ว.พร้อมสิ่งปลูกสร้าง 14 หลัง ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครภูเก็ต ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ราคาประเมิน 64 ล้านบาท ราคาประเมินของคณะกรรมการฯ 61.9 ล้านบาท
และแปลงที่ 7 ทรัพย์ตามคดีแพ่งศาลจังหวัดภูเก็ต หมายเลขคดีแดงที่ 151/2551 เป็นที่ดินโฉนด ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมสิ่งปลูกสร้างบ้านเรือนไทย 1 หลัง ตั้งอยู่บนเนินเขาเห็นซีวิว มีทางออกสู่ทางสาธารณะ ราคาประเมิน 46 ล้านบาท และราคาประเมินของคณะกรรมการฯ 46 ล้านบาท
นายสำเนา กล่าวอีกว่า ทรัพย์ทั้ง 7 แปลงนี้ เป็นที่สนใจของนักลงทุนทั้งไทย และต่างชาติ ซึ่งคิดว่าในปีนี้น่าที่จะผลักดันทรัพย์ทั้ง 7 แปลงออกได้ทั้งหมด โดยในปีนี้ตั้งเป้าหมายการผลักดันทรัพย์ออกไว้ที่ 2,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 40 ของมูลค่าทรัพย์ 5,000 ล้านบาท จากเมื่อปีที่แล้วสามารถผลักดันทรัพย์ออกได้ 1,096 ล้านบาท จากเป้าหมายที่วางไว้ 1,463 ล้านบาท