ผอ.ศอ.รส.หัวโต แสดงอำนาจบาตรใหญ่ขู่เล่นงานบริษัทห้างร้าน กลุ่มทุนที่ให้การสนับสนุน “กบฏสุเทพ” ฐานสมรู้ร่วมคิด ปูดข่าวเฮลิคอปเตอร์ ตร.ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมยิง ข้างๆ คูๆ ไม่รู้ยิงมาจากจุดใด เหน็บ “สุเทพ” อย่าจินตนาการเสนอนายกฯ ม.7
วันนี้ (4 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะกำกับดูแลศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส.แถลงว่า ขณะนี้ ศอ.รส.อยู่ระหว่างการตรวจสอบรวบรวมข้อมูลเกี่ยวบริษัทห้างร้านหรือกลุ่มบุคคลที่ให้การสนับสนุนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส.ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีกบฏ โดยผู้สนับสนุนเหล่านี้จะมีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดกับกบฏตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 114 ซึ่งบัญญัติว่า ผู้ใดสะสมกำลังพลหรืออาวุธ ตระเตรียมการอื่นใดหรือสมคบกันเพื่อเป็นกบฏ หรือกระทำความผิดใดๆ อันเป็นส่วนของ แผนการ เพื่อเป็นกบฏ หรือยุยงราษฎรให้เป็นกบฏหรือรู้ว่ามีผู้จะเป็นกบฏแล้วกระทำการใดอันเป็นการช่วยปกปิดไว้ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี ส่วนข้อมูลของบริษัท ห้างร้าน หรือ กลุ่มบุคคล ที่สนับสนุนนายสุเทพ มีใครบ้าง จำนวนเท่าใดนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ยืนยันว่าใครก็ตามที่มีส่วนสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด จะต้องถูกดำเนินคดี
นายสุรพงษ์กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมานายสุเทพพูดมาตลอดว่าจะชุมนุมด้วยความสงบ อหิงสา ปราศจากอาวุธ แต่สิ่งที่เกิดขึ้น คือ เฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบลล์ 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถูกยิงที่บริเวณใต้ปีกใบพัดและใต้ท้องเครื่อง รวม 2 นัด ขณะร่อนลงส่งเสบียงให้กับตำรวจชุดควบคุมฝูงชน ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า พระราชวังดุสิต เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา มูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท ขณะนี้เฮลิคอปเตอร์ลำนี้จอดอยู่ที่กองบินตำรวจ ขณะที่อีกกรณี พ.ต.ท.วิเชียร มุริจันทร์ รอง ผกก.ควบคุมฝูงชน 2 บก.อคฝ.ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่สะพานอรทัย เมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสะเก็ดระเบิดได้ทำลายหลอดลม ทำให้ขณะนี้ยังคงพักอยู่ในห้องไอซียู ขณะนี้พักรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ
“ถ้ากรณีเฮลิคคอปเตอร์ลำนี้ตกลงใส่ฝูงชนจะมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวน รวมทั้งอาจตกใส่อาคารสถานที่สำคัญ อยากจะถามนายสุเทพว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ จึงอยากเรียกร้องไปยังนายสุเทพ ให้ควบคุมการประท้วงให้อยู่ในกฎเกณฑ์ อย่าทำร้ายตำรวจ หรือคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ รวมทั้งไม่ทำลายทรัพย์สินทางราชการ” รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าแน่ใจได้อย่างไรว่าเหตุการณ์ที่เฮลิคคอปเตอร์ถูกยิงเป็นการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุม นายสุรพงษ์กล่าวว่า จากการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญด้านวิถีกระสุนพบว่าเป็นการยิงจากพื้นดินและเป็นการยิงมุมเฉียง 35 องศา เมื่อถามว่าเป็นการยิงจากจุดไหน นายสุรพงษ์กล่าวว่า จากข้อมูลที่ได้รับรายงานทราบเพียงว่าเหตุเกิดที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เมื่อถามว่าขณะนั้นมีเหตุการณ์อะไร รองนายกฯ กล่าวว่า ที่ตนได้รับรายงานมามีข้อมูลเพียงเท่านี้
ส่วนกรณีที่นายสุเทพออกพิมพ์เขียวการตั้งสภาประชาชนโดยใช้ช่องตามมาตรา 3 และมาตรา 7 ตามรัฐธรรมนูญ นายสุรพงษ์กล่าวว่า นายสุเทพจะต้องไปศึกษาในข้อกฎหมายให้ละเอียดรอบคอบกว่านี้ ส่วนตัวมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่นายสุเทพจินตนาการไปเอง เกี่ยวกับมาตรา 7 นั้น หากทำได้ ทำไปนานแล้ว อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้อาจต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ทั้งนี้ ยืนยันว่าตนยินดีที่จะพูดคุยกับนายสุเทพ แต่การจะพูดคุยกันนั้น นายสุเทพต้องมอบตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อน