ดีเอสไอลงนามให้ความร่วมมือกับ UNODC เปิดสถาบันพัฒนาการสืบสวนสอบสวนพิเศษ หรือ ดีเอสไออคาเดมี่ ครอบคลุมทุกการเรียนรู้ โดยจะมีครูจากหลายประเทศแลกเปลี่ยนมาให้ความรู้อย่างทั่วถึง ส่วนเหตุการณ์จำลองการช่วยเหลือตัวประกันวันนี้ เพื่อช่วยเหลือและยุติภัยคุกคามรอบด้าน
วันนี้ (14 พ.ย.) ที่สถาบันพัฒนาการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ (Dsi Academy) แขวงลำผักชี เขตหนองจอก นายชาญชัย นิติสิริ รมว.ยุติธรรม เป็นประธานในการลงนามระหว่างนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม และนายเจเรมี ดักลาส ผอ.สำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Off on Drugs and Crime-UNODC) ในกรอบความร่วมมือด้านการรับมือการค้ามนุษย์ นอกจานี้ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ได้ลงนามความร่วมมือกับ นายเจเรมี ดักลาส ผอ.UNODC เพื่อแสดงเจตจำนงที่จะร่วมมือกันในการพัฒนาการสถาบันสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ ยกระดับสมรรถนะของดีเอสไอในการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยมี นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ นางสุวณา สุวรรณจูฑะ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมคุมประพฤติ พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และ พ.ท.นพ.เอนก ยมจินดา ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร่วมเป็นเกียรติ ภายในงานมีการแสดงแบบโมเดลของ ดีเอสไออคาเดมี่ พร้อมสาธิตการบุกเข้าช่วยเหลือตัวประกันจากชุดปฏิบัติการพิเศษ
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า หลังจากดีเอสไออคาเดมี่ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือกับ UNODC หลังจากนี้ไปจะถือว่าดีเอสไอจะเป็นพันธมิตรกับทุกประเทศทั่วโลก ซึ่ง UNODC จะคัดกรองตัวอย่างการสอบสวนดำเนินคดีของประเทศที่ประสบความสำเร็จเรื่องเทคโนโลยี การเรียนรู้ การใช้อาวุธ การใช้เครื่องมือพิเศษ การตรวจสอบทางการเงิน นำมาเป็นแม่แบบปรับใช้กับดีเอสไอ โดยดีเอสไอไม่ได้เลือกที่จะจับมือกับประเทศหนึ่งประเทศใด แต่ดีเอสไอเลือกที่จะจับมือกับองค์การสหประชาชาติ ดังนั้นเราจะได้ความรู้วิธีการที่เป็นรูปแบบที่ประสบความสำเร็จจากนานาประเทศจากหลายประเทศ โดยอีก 2-3 เดือน ดีเอสไอจะมีหลักสูตรร่วมกับ UNODC เช่น หลักสูตรการบริหารคดี หลักสูตรต้านก่อการร้าย จะทำให้เพิ่มขีดความสามารถให้เจ้าหน้าที่ โดยอาจจะได้ความรู้หรือแนะนำจากสหประชาชาติมากขึ้น
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า สำหรับดีเอสไออคาเดมี่ ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 50 ไร่ จะมีอาคารทั้งหมด 12 อาคาร เป็นสถานที่ฝึก โดยจะกำหนดหลักสูตรที่ดีในการอบรม ให้ความสำคัญเรื่องครูฝึกซึ่งจะมีการแลกเปลี่ยนครูฝึกกันจากหลายประเทศ ส่วนผู้ที่เข้าอบรมจะมีดีเอสไอเป็นหลักแต่จะเปิดให้บุคคลภายนอกเข้าร่วมอบรมตามความจำเป็น ซึ่งในอนาคตดีเอสไอมีโครงการขยายหน่วยงานรองรับ ทั้งนี้ คาดหวังว่าดีเอสไอจะสามารถยกระดับความสามารถให้ใกล้เคียงทั้งหน่วยสอบสวนกลางระดับสากล โดยจะศึกษาต้นแบบจากเอฟบีไอ ของสหรัฐอเมริกา หรือประเทศอังกฤษ ฮ่องกง ญี่ปุ่น พร้อมทั้งจะศึกษาความล้มเหลวในการปฏิบัติงานที่เกิดขึ้นเพื่อปรับปรุงการทำงาน วันนี้ทาง UNODC พอใจในการทำงานของดีเอสไอในระดับหนึ่ง จึงมาร่วมมือกันทำงานในครั้งนี้ หลังจากนี้จะเริ่มประชุมหารือกันอย่างใกล้ชิดภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงยุติธรรม ระยะสั้นในส่วนของหลักสูตรอบรมจะเริ่มได้ ส่วนโครงสร้างอาคารสถานที่จะเสร็จภายใน 2 ปี
นายธาริต กล่าวอีกว่า ในส่วนของชุดคอมมานโด ที่มีการสาธิตการช่วยเหลือตัวประกันในวันนี้ ปกติเราจะไม่เปิดเผยเพราะเป็นหน่วยลับ แต่เนื่องจากดีเอสไอเป็นหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายจึงต้องมีหน่วยคอมมานโดที่เชี่ยวชาญในการใชอาวุธเป็นพิเศษไว้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าหรือแก้ไขสถานการในเรื่องสำคัญๆ การทำงานอาจจะมีจากการเคสซิ่งเป้าหมาย วางแผนเป้าหมายหรือใช้กล้องวงจรปิดจากอากาศยานไร้คนเข้า ส่วนวิธีการปฎิบัติการจะหาข้อมูลสภาพพื้นที่และจำแนกว่าเป็นอาชญากรรมประเภทไหนมีความร้ายแรงเพียงใดโดยการปฎิบัติการจำดำเนินการภายใต้กรอบของกฎหมาย เพื่อช่วยเหลือบุคคลที่ตกเป็นเหยื่อถ้าดำเนินช้าอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตจะต้องตัดสินใจใช้ยุทธวิธีเพื่อช่วยเหลือตัวประกันไม่ได้มุ่งหวังที่จะทำร้ายหรือทำลาย แต่มุ่งจะยุติภัยคุกคามเพื่อควบคุมสถานการณ์จับกุมคนร้ายให้ได้
