ฆ่า-ชิงทรัพย์ อดีตเทรนเนอร์มวยคาห้องพัก ย่านราษฎร์บูรณะ

คนร้ายรัดคอ-ทุบศีรษะอดีตเทรนเนอร์นักมวยไทย ดับคาห้องพักย่านราษฎร์บูรณะ คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน เบื้องต้นตำรวจมุ่งประเด็นฆ่าชิงทรัพย์

วันนี้ (13 ต.ค.) พ.ต.ท.ยุทธนา นังคลา พนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในห้องเช่าไม่มีเลขที่ ชุมชนซอยรุ่งเรือง ถนนสุขสวัสดิ์ ตรงข้ามซอยสุขสวัสดิ์ 35 แขวงและเขตราษฎร์บูรณะ กทม.จึงรายงานให้ผุ้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง

ที่เกิดเหตุเป็นห้องเช่าชั้นเดียวไม่มีเลขที่ปลูกอยู่ในบ้านเลขที่ 230 หมู่ 5 ชุมชนซอยรุ่งเรือง ถนนสุขสวัสดิ์ ตรงข้ามซอยสุขสวัสดิ์ 35 พบศพ นายอนันต์ พรหมพฤกษ์ อายุ 53 ปี สภาพนอนหงายจมกองเลือดบนฟูกที่นอนอยู่ในมุ้งสีชมพูมีร่องรอยเลือดสาดกระเซ็นเต็มมุ้ง มีหมอนปิดทับใบหน้า สวมกางเกงขาสามส่วนสีดำ รูดลงมาเล็กน้อย ไม่ใส่กางเกงใน และไม่สวมเสื้อ

ตรวจสอบพบบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งเข้าที่ศีรษะ ที่ลำคอมีสายชาร์จโทรศัพท์พันอยู่ 3 เส้น มีพระพุทธรูปหน้าตักกว้าง 3 นิ้ว เปื้อนคราบเลือดและเศษหนังศีรษะติดอยู่ ส่วนภายในห้องบริเวณประตูห้องพบขวดยาแก้ไอยี่ห้อเสือ 11 ตัว 6 ขวด และยาดองเหล้าตราเสือ 11 ตัว อีก 6 ขวด และที่หัวนอนมีรูปถ่ายนักมวยไทย คาดว่าน่าจะเป็นรูปผู้ตาย เขียนชื่อใต้รูปว่า อนันตเดช ส.บุญหิรัญและ รุ่งเดช ธนากร จอมมหากาฬ พ.ศ.2521 เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน เจ้าหน้าที่จึงเก็บรายละเอียดที่พบไว้ไปตรวจสอบ

จากการสอบถาม นายมายด์ ศาสตรินทร์ อายุ 16 ปี กล่าวว่า ตนรู้จักคุ้นเคยกับผู้ตายมานานแล้วตั้งแต่มาพักอยู่ที่นี่ได้กว่า 1 ปีแล้ว ซึ่งตนก็เคยมาอยู่ด้วย แต่ระยะหลังเกิดทะเลาะกัน จึงกลับไปอยู่ที่บ้านของตัวเอง ซึ่งตนทราบว่าผู้ตายเป็นเทรนเนอร์มวยอยู่ที่ค่าย ม.กรุงเทพธนบุรี ก่อนเกิดเหตุตนโทรศัพท์มาหาผู้ตายแต่โทร.ไม่ติดหลายวันแล้ว

ต่อมาในช่วงเช้าจึงเดินมาดูที่ห้อง ก็พบห้องถูกล็อกกุญแจจากภายนอก แต่ก็ได้ยินเสียงเปิดน้ำทิ้งไว้ จึงเรียกเจ้าของบ้านมางัดประตูเข้าไปดูก็พบว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว นอกจากนี้ทรัพย์สินของผู้ตายหายไปด้วย คือโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย 1 เครื่อง ยี่ห้อซัมซุงอีก 1 เครื่อง และกระเป๋าเงินของผู้ตาย

จากการสอบถามพยานในที่เกิดเหตุทราบว่า เมื่อ 3 วันที่แล้ว ประมาณช่วงเช้า พบมีวัยรุ่นชาย 3 คน มานั่งคุยกับผู้ตายอยู่ที่ห้อง แต่ไม่ทราบว่าคุยกันนานเท่าไร จากนั้นช่วงเวลาประมาณ 22.00 น.ก็เห็นผู้ตายเดินออกมากับชายวัยรุ่นตัดผมสั้นเกรียน จำนวน 2 คน ออกไปข้างนอกและกลับเข้ามาที่ห้องเวลาประมาณ 03.00 น.จากนั้นก็ไม่เห็นผู้ตายอีกเลยกระทั่งพบเป็นศพดังกล่าว

นอกจากนี้มีชาวบ้านบอกว่าผู้ตายมักพาเด็กผู้ชายมาที่ห้องพักบ่อยครั้ง ซึ่งคาดว่าผู้ตายน่าจะถูกคนร้ายใช้พระพุทธรูปทุบที่ศีรษะ ก่อนเกิดการต่อสู้กัน เพราะมีเลือดสาดกระเซ็นเต็มมุ้ง จากนั้นคนร้ายก็ใช้สายชาร์จโทรศัพท์จำนวน 3 เส้น รัดคอผู้ตายและใช้หมอนกดที่ใบหน้าให้ขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิต ก่อนหยิบฉวยทรัพย์สินแล้วหลบหนีไป ซึ่งเบื้องต้นได้ตั้งประเด็นฆ่าชิงทรัพย์เอาไว้ก่อน ส่วนประเด็นอื่นๆ ก็ยังไม่ตัดทิ้ง หลังจากนี้จะได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป