ดีเอสไอขึ้นบัญชีดำคิวรถแท็กซี่ป้ายดำภูเก็ต 180 คิว คิดค่าโดยสารนักท่องเที่ยวมหาโหด 700-800 บาท ในเส้นทาง 3 กม. จ่อประสานกองปราบปรามลุยดำเนินคดี
วานนี้ (3 ต.ค.) พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหากลุ่มแท็กซี่ป้ายดำในจังหวัดภูเก็ตที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการว่า หลังจากนายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รมว.กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ประสานนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อให้แก้ปัญหากลุ่มแท็กซี่ป้ายดำในจังหวัดภูเก็ต ที่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้ประกอบการโรงแรมและนักท่องเที่ยว หลังจากกลุ่มรถแท็กซี่ป้ายดำไปใช้พื้นที่หน้าโรงแรมหรือชายหาด เพื่อบังคับให้นักท่องเที่ยวต้องใช้บริการรถแท็กซี่ป้ายดำ โดยคิดค่าโดยสารแพงมาก 700-800 บาท แค่ระยะทางเพียง 3 กม. หากมีรถคันอื่นที่ไม่อยู่ในกลุ่มแท็กซี่ป้ายดำไปรับนักท่องเที่ยวในโรงแรม กลุ่มแท็กซี่ป้ายดำจะปิดกั้นไม่ให้รถออก ทั้งที่ไม่ใช่โรงแรมหรือถนนของตัวเอง พร้อมบังคับให้ใช้บริการรถแท็กซี่ป้ายดำ สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เวลาผ่านมากว่า 10 ปี ไม่มีการแก้ไข จนมีนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เห็นถึงสิ่งที่ไม่ถูกต้องจึงร้องเรียนให้หน่วยงานของประเทศไทยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้หมดไป
ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 ดีเอสไอ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นจากการสอบสวนดีเอสไอพบว่าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีคิวแท็กซี่ป้ายดำ ประมาณ 180 คิว แต่ละคิวจะมีสมาชิกประมาณ 30 คัน โดยกระจายอยู่ตามชายหาดและหน้าโรงแรมที่อยู่ติดพื้นที่ชายหาด โดยดีเอสไอพบว่ามีคิวแท็กซี่ป้ายดำประมาณ 20 คิว ที่มีปัญหารุนแรง ในระยะสั้นดีเอสไอจะประสานกองปราปบรามเข้าดำเนินคดีกับคิวแท็กซี่ป้ายดำที่สร้างปัญหามาก 4-6 คิว เป็นกลุ่มแรก โดยคุมรถแท็กซี่ป้ายดำแต่ละคิวจะมีหัวหน้าคุมคิวแท็กซี่ป้ายดำเพื่อเคลียร์ปัญหาทั้งหมดโดยมีนักการเมืองท้องถิ่นคอยให้ความช่วยเหลือคิวแท็กซี่ป้ายดำเหล่านี้ในลักษณะผลประโยชน์ต่างตอบแทนเพื่อใช้เป็นฐานเสียงในการเลือกตั้งในท้องถิ่น สำหรับการแก้ปัญหากลุ่มแท็กซี่ป้ายดำ สร้างความเดือดร้อน รำคาญใจให้ผู้ประกอบการโรงแรมและนักท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดีเอสไอ และตำรวจ จะดำเนินคดีกับกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังคิวรถแท็กซี่ป้ายดำและคนที่เป็นแกนนำ พร้อมใช้มาตราตรวจสอบภาษีย้อนหลัง พร้อมใช้กฎหมายฟอกเงินเข้าตรวจสอบทรัพย์สิน
พ.ต.ท.สมบูรณ์กล่าวอีกว่า ส่วนปัญหากลุ่มแท็กซี่ป้ายดำในสนามบินจังหวัดภูเก็ต ขณะนี้การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ได้ยกเลิกสัมปทานพื้นที่แท็กซี่ป้ายดำทั้งหมด พร้อมให้เปลี่ยนเป็นแท็กซี่มิเตอร์ทั้หมด ขณะเดียวกันดีเอสไอจะกดดันกลุ่มรถแท็กซี่ป้ายดำอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวโดยประสานกรมการขนส่งเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางลงพื้นจังหวัดภูเก็ตไปตรวจจับรถแท็กซี่ป้ายดำโดยปรับครั้งละ 2,000 บาท อย่างเข้มงวด เพื่อกดดันกลุ่มแท็กซี่ป้ายดำอย่างต่อเนื่องให้สมาชิกคิวรถแท็กซี่ป้ายดำหันไปจดทะเบียนเป็นแท็กซี่ป้ายเหลืองและป้ายเขียวกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้ปัญหารถแท็กซี่ป้ายดำในจังหวัดภูเก็ตหมดไป หลังจากที่ผ่านมาหลังจากกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ประสานดีเอสไอลงพื้นที่แก้ปัญหาขณะนี้มีแท็กซี่ป้ายดำ ประมาณ 140 คัน เข้าขอจดทะเบียนเป็นรถแท็กซี่ป้ายเหลืองหรือป้ายเขียวกับกรมการขนส่งทางบก และมีรถแท็กซี่ป้ายดำยื่นหลักฐานขอจดทะเบียนเป็นรถแท็กซี่ป้ายเหลืองและป้ายเขียวกับกรมการขนส่งทางบกอีกกว่า 200 คัน
