xs
xsm
sm
md
lg

ดีเอสไอสรุปสำนวนสั่งฟ้อง “สมีคำ” 2 ก.ย.นี้ พร้อมร่อนหมายเรียกน้องชายครั้งที่ 4

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ) อดีตพระวิรพล ฉัตติโก หรือนายวิรพล สุขผล หรือหลวงปู่เณรคำ
ดีเอสไอเตรียมสรุปสำนวนสั่งฟ้อง “สมีคำ” 2 ก.ย.นี้ พร้อมร่อนหมายเรียกสอบปากคำน้องชายครั้งที่ 4

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (28 ส.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ พ.อ.ชัยนันท์ เมธีธรรมมาภรณ์ รอง ผบ.สำนักคดีความมั่นคง ดีเอสไอ นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ หัวหน้าศูนย์ข้อมูลและวิเคราะห์คดีความมั่นคง ดีเอสไอ ร่วมแถลงข่าวมติของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ลงมติสั่งฟ้อง อดีตพระวิรพล ฉัตติโก หรือ นายวิรพล สุขผล หรือ หลวงปู่เณรคำ ในคดีกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภรรยาตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และปราศจากเหตุอันสมควรพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจารเป็นคดีแรก โดยจะมีการนำพยานหลักฐานประมาณ 2 แฟ้ม ไปส่งฟ้องต่ออัยการในวันจันทร์หน้า

นายธาริต กล่าวว่า ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ทำการสืบสวนสอบสวนกรณีการกระทำความผิดอาญาของอดีตพระวิรพล ฉัตติโก หรือ นายวิรพล สุขผล หรือหลวงปู่เณรคำ และต่อมาศาลอาญา ได้อนุมัติออกหมายจับที่ 1244/2556 ลงวันที่ 17 ก.ค. 2556 ความคืบหน้าเกี่ยวกับสำนวนการสอบสวนขณะนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ทำการสรุปสำนวนการสอบสวนในส่วนข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และการพรากผู้เยาว์แล้ว และจะสามารถส่งสำนวนการสอบสวนให้กับพนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษได้ภายในวันจันทร์ (2 ก.ย.) นี้ พร้อมจะมีหนังสือถึงสำนักงานอัยการสูงสุดให้ดำเนินการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน โดยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษมั่นใจว่าคดีนี้มีพยานหลักฐานครบถ้วนทั้ง พยานบุคคล พยานเอกสาร และพยานวัตถุ ผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์พยานหลักฐานมีความสอดคล้องเชื่อมโยงกัน เพียงพอที่จะมีความเห็นควรสั่งฟ้อง พระวิรพล ฉัตรติโก หรือ นายวิรพล สุขผล หรือหลวงปู่เณรคำ ได้อย่างแน่นอน ส่วนความผิดฐานอื่นๆ นั้น อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนสมบูรณ์

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ นายสุริ สุขผล น้องชายเณรคำและครอบครัว ไม่มาพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ตามที่ได้มีหมายเรียกไปจำนวนทั้งสิ้น 3 ครั้ง ประกอบด้วย ครั้งที่ 1 หมายเรียกพยานให้มาพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ที่สำนักคดีความมั่นคงในวันที่ 31 ก.ค.เวลา 14.00 น.ครั้งที่ 2 หมายเรียกพยานให้มาพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ที่สำนักคดีความมั่นคงในวันที่ 13 ส.ค.เวลา 14.00 น.ครั้งที่ 3 หมายเรียกพยานให้มาพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ที่สำนักคดีความมั่นคงในวันที่ 27 ส.ค. เวลา 10.00 น.ขณะนี้ได้พ้นกำหนดระยะเวลาที่ทางคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกำหนดไว้ในหมายเรียกพยานแล้ว เมื่อนายสุริ และครอบครัวไม่มาพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษตามกำหนด โดยไม่ได้ติดต่อ และไม่ได้แจ้งเหตุผลความจำเป็นอันสมควรต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ

นายธาริต กล่าวอีกว่า นายสุริ กลับไปกล่าวอ้างผ่านสื่อมวลชนว่ามีความสัมพันธ์กับผู้หญิงผู้เสียหายในคดีนี้ ทางคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษพิจารณาแล้วเห็นควรดำเนินการตามกฎหมายกับนายสุริ และครอบครัว ซึ่งเข้าข่ายกระทำความผิดฐานขัดขืนคำบังคับตามกฎหมาย (หมายเรียก) ซึ่งให้มาเพื่อให้ถ้อยคำ หรือจัดส่งเอกสารใดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 168 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 500 บาท หรือทั้งจำและปรับ อย่างไรก็ตาม ตนในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ควรจะให้โอกาสนายสุริ และครอบครัวอีกครั้งโดยจะออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 4 โดยให้เวลาเข้าให้ปากคำกับดีเอสไออีก 7 วัน เป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ โดยจะออกหมายเรียกในวันพรุ่งนี้ และให้เวลาเข้าพบดีเอสไอถึงวันที่ 9 ก.ย.เพราะเห็นว่าการจะดำเนินคดีกับประชาชนไม่ใช่ว่าออกหมายเรียก 2-3 ครั้ง หากไม่มาก็จะจับติดคุกคงต้องให้โอกาสประชาชน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานดีเอสไอหรือหน่วยงานอื่น ซึ่งการให้โอกาสครอบครัวอดีตพระเณรคำจะไม่ส่งผลกระทบต่อการสรุปสำนวนสั่งฟ้องในคดีแรก

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า ส่วนที่อยู่ของอดีตพระเณรคำตอนนี้ดีเอสไอสืบทราบ แต่ไม่ขอเปิดเผยเกรงว่าจะขยับหลบหนี แต่เรื่องที่อยู่ของอดีตพระเณรคำตอนนี้ ตนเห็นว่ามีการเล่นเลยเถิดมีการบอกว่าอยู่ประเทศลาวบ้าง อยู่ประเทศพม่าบ้าง อยู่แอลเอ ประเทศสหรัฐอเมริกาบ้าง ส่วนคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีลงข้อความอวดอุตริ และคดีฉ้อโกงประชาชน อยู่ระหว่างสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อพิจารณาสรุปสำนวนสั่งฟ้องตามลำดับต่อไป
(แฟ้มภาพ) นายสุริ สุขผล น้องชายเณรคำ
กำลังโหลดความคิดเห็น