ศาลอนุมัติหมายจับ ล่า “ไอ้คำ” 3 ข้อหาแล้ว หลังดีเอสไอยื่นขออนุมัติหมายจับเมื่อช่วงเช้า กระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์-ฉ้อโกงประชาชน-กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี
วันนี้ (17 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ ผอ.ส่วนคดีความมั่นคง 1 สำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ยื่นคำร้องพร้อมเอกสารหลักฐานเพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับนายวิรพล สุขผล อดีตเณรคำ ฉัตติโก ประธานสำนักสงฆ์วัดป่าขันติธรรม ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ในข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14, ข้อหาฉ้อโกงประชาชน และข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งไม่ใช่ภรรยาตนและโดยปราศจากเหตุอันควรในการพรากผู้เยาว์ไปจากบิดามารดาและผู้ปกครอง รวมทั้งสิ้น 3 ข้อหา
นายทวีวัฒน์กล่าวว่า หลักฐานที่นำมายื่นต่อศาลในวันนี้เป็นพยานเอกสารที่เกี่ยวข้องกับนายวิรพลทั้งหมด ซึ่งระบุว่านายวิรพลมีพฤติกรรมอย่างไร มีบัญชีทรัพย์สินมากน้อยเพียงใด และข้อมูลเรื่องการเปิดเว็บไซต์รับบริจาคเงินทำบุญ ซึ่งได้ระบุเลขที่บัญชีของนายวิรพลด้วย และมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 กรณีนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และข้อหาฉ้อโกงประชาชน ส่วนข้อหากระทำชำเราและพรากผู้เยาว์เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี นั้น มีหลักฐานเป็นคำให้การของผู้เสียหายและพยานแวดล้อมต่างๆ
นายทวีวัฒน์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้หากศาลอนุมัติหมายจับนายวิรพลแล้ว ดีเอสไอก็จะเดินหน้าติดตามตัวนายวิรพลมาดำเนินคดีให้ได้ก่อน โดยจะประสานหมายจับไปยังกระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพื่อขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน รวมทั้งจะประสานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เพื่ออายัดทรัพย์สินทั้งหมดต่อไป ขณะที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้ดำเนินการประสานกรมการกงสุลเพื่อให้เพิกถอนหนังสือเดินทาง และหากมีการเพิกถอนหนังสือเดินทางแล้วจะถือว่านายวิรพลเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ก็จะต้องดำเนินการส่งตัวกลับประเทศต่อไป ทั้งนี้ จากการรวบรวมพยานหลักฐานในการขอศาลออกหมายจับนั้น ทางดีเอสไอมั่นใจในพยานหลักฐานว่ามีน้ำหนักเพียงพอที่ศาลจะออกหมายจับได้ แต่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล โดยทางดีเอสไอมีแหล่งที่อยู่ของนายวิรพลยืนยันชัดเจน แต่ว่ายังไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด โดยจะขอให้ศาลอนุมัติหมายจับเสียก่อน
ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. นายทวีวัฒน์กล่าวภายหลังยื่นคำร้องว่า ศาลได้นัดฟังคำสั่งว่าจะอนุมัติหมายจับหรือไม่ ในวันพรุ่งนี้ (18 ก.ค.) เวลา 13.00 น. เนื่องจากมีเอกสารพยานหลักฐานจำนวนมาก ศาลจึงขอพิจารณารายละเอียดให้รอบคอบเสียก่อน โดยจะมีการหารือกับองค์คณะก่อนที่จะมีคำสั่งต่อไป ซึ่งคงจะต้องรอฟังคำสั่งของศาลอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ และหากศาลอนุมัติหมายจับก็จะเสนออธิบดีดีเอสไอ เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับนายวิรพล สุขผล อดีตเณรคำ ฉัตติโก ประธานสำนักสงฆ์วัดป่าขันติธรรม แล้ว
นายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ได้กล่าวว่า ภายหลังที่ดีเอสไอยื่นคำร้องต่อศาลเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น ในช่วงบ่ายองค์คณะผู้พิพากษาได้ประชุมหารือ เพื่อพิจารณาสำนวนพยานหลักฐานของดีเอสไอแล้วเห็นว่า มีหลักฐานพอสมควรให้เชื่อได้ว่าผู้ต้องหาได้กระทำการที่จะเป็นความผิดทั้ง 3 ข้อหาตามที่ถูกดีเอสไอยื่นคำร้อง ขณะเดียวกัน องค์คณะผู้พิพากษาก็พิจารณาแล้วเห็นว่าผู้ต้องหาเองก็ไม่ได้อยู่ในประเทศ เชื่อว่าน่าจะมีพฤติการณ์หลบหนี ดังนั้น อยู่ในเงื่อนไขที่ศาลจะพิจารณาอนุมัติหมายจับได้ ศาลอาญาจึงมีคำสั่งออกหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าว
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)กล่าวถึงกรณีที่ดีเอสไอได้ไปขออนุมัติศาลออกหมายจับนายวิรพล สุขผล อดีตหลวงปู่เณรคำ ว่าจากการที่พนักงานสอบสวนดีเอสไอเดินทางไปยื่นหนังสือเพื่อขอออกหมายจับเณรคำที่ศาลอาญารัชดาฯ นั้น ทางองค์คณะผู้พิพากษาศาลอาญาชุดใหญ่ได้มีการประชุมพิจารณากรณีดังกล่าว และได้อนุมัติหมายจับเณรคำแล้ว โดยหมายจับเลขที่ 1245/2556 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน ฉ้อโกงประชาชน กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและปราศจาก้หตุอันสมควรพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร โทษจำคุกไม่เกิน 20 ปี
ทั้งนี้ หมายจับดังกล่าวมีอายุความ 10 ปี โดยจะเริ่มนับอายุตั้งแต่วันที่ 2 กค.นี้ ดังนั้นจะหมดอายุความในวันที่ 2 ก.ค. 2566