xs
xsm
sm
md
lg

ดีเอสไอจ่อขอหมายจับ “ไอ้คำ” สั่งอายัดทรัพย์ เพิกถอนพาสปอร์ต

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ที่ประชุมดีเอสไอมีมติเสนออนุมัติขอหมายจับ “วิรพล สุขผล” อดีตหลวงปู่เณรคำ 2 ฐานความผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และกระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี พุธนี้ เตรียมประสานกงศุลเพิกถอนพาสปอร์ต พร้อมสั่งอายัดบัญชีและทรัพย์สินที่ได้จากกระทำผิด

วันนี้ (15 ก.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เป็นประธานในการประชุมพิจารณาพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ นายวิรพล สุขผล อดีตหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสำนักสงฆ์วัดป่าขันติธรรม โดยมี พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดีดีเอสไอ นายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย ที่ปรึกษาคดีพิเศษ อดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีพระสมเด็จเหนือหัว เป็นผู้จับกุมนายสิทธิกร บุญฉิม หรือเสี่ยอู๊ด ดำเนินคดี พ.ต.ท.วิชิต อุปะถะ รอง ผบ.สำนักคดีความมั่นคง ดีเอสไอ นางอัจฉรา ปรียาจิตต์ ผอ.ส่วนอำนวยการดีเอสไอ เข้าร่วมประชุมอย่างเคร่งเครียด ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ผลการการประชุมเฉพาะที่เปิดเผยได้ คือ 1. ที่ประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมที่ปรึกษาและตนเห็นชอบมีมติให้ขออนุมัติศาลออกหมายจับนายวิรพลต่อศาลอาญา ภายในเช้าวันพุธที่ 17 ก.ค. ซึ่งการออกหมายจับครั้งนี้สืบเนื่องจากมีการกระทำความผิดในเบื้องต้น 2 ฐานความผิด โดยฐานความผิดแรกเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ที่เข้าไปตรวจสอบเว็บไซต์ของอดีตหลวงปู่เณรคำ อันมีลักษณะที่มีการหลอกลวงและเป็นความผิดที่สำเร็จชัดเจน โดยจะเกี่ยวพันกับฐานความผิดที่ 2 คือ ความผิดฐานกระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และพรากผู้เยาว์ ตามประมวลกฎหมายอาญา เพราะว่าเหตุที่เกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันก็คือ การกระทำความผิดเมื่อ 10 ปีที่แล้วหากมีความผิดจริงก็จะทำให้ต้องปาราชิก เนื่องจากมีการเสพเมถุนซึ่งเป็นความผิดทางธรรม ส่งผลให้หลวงปู่เณรคำพ้นสภาพจากการเป็นสงฆ์ตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ดังนั้น การที่กระทำการต่อเนื่องเรื่อยๆ เป็นระยะเวลา 10 กว่าปี แล้วมาลงเว็บไซต์ว่าได้รับบัญชาไปเข้าเฝ้าพระอินทร์ และพระอินทร์สั่งให้สร้างพระแก้วมรกตก็เป็นความผิดเกี่ยวเนื่องกัน

อธิบดีดีเอสไอกล่าวอีกว่า เรื่องที่ 2 เมื่อดีเอสไอได้รับหมายจับแล้ว ดีเอสไอจะดำเนินการเพื่อให้ได้ตัวนายวิรพลกลับมาใน 2 ช่องทาง โดยช่องทางที่ 1 จะทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ตามที่ได้ตกลงกันไว้ เพื่อให้ พศ.แจ้งทางศูนย์การออกพาสปอร์ต หรือหนังสือเดินทางของเถรสมาคม ทราบว่าศาลได้ออกหมายจับแล้ว เพื่อจะประสานงานกับการกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ให้มีการเพิกถอนพาสปอร์ตของนายวิรพล

ส่วนช่องทางที่ 2 ดีเอสไอจะประสานกับหน่วยงานกลางของสหรัฐอเมริกา เพื่อขอให้เพิกถอนวีซ่า รวมไปถึงประเทศในยุโรปด้วย ขณะนี้ได้มอบให้ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผบ.สำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ดีเอสไอ ดำเนินการเรื่องนี้ ซึ่งเดิมทีได้มีการประสานในเรื่องดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นทางสหรัฐอเมริกาบอกว่าถ้ามีหมายจับโดยเฉพาะเรื่องล่วงละเมิดทางเพศ ทางสหรัฐอเมริกาจะให้ความสำคัญเป็นหลักในการที่จะเพิกถอนวีซ่า

นายธาริตกล่าวอีกว่า เรื่องที่ 3 ดีเอสไอจะทำการสั่งอายัดทรัพย์สินของนายวิรพล ประกอบด้วย บัญชีธนาคารทั้ง 41 บัญชี และบัญชีอื่นๆ โดยจะแจ้งไปยังธนาคาร สถาบันการเงินทุกแห่งว่า หากสถาบันการเงินใดมีชื่อนายวิรพล หรือพระหลวงปู่เณรคำก็ตาม ดีเอสไอจะสั่งยึดอายัดบัญชีทันที 2.จะมีหนังสือถึงอธิบดีกรมที่ดิน เพื่อใช้คำสั่งของดีเอสไออายัดที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ ในรูปต่างๆ ทั่วประเทศที่มีชื่อนายวิรพล เช่น คอนโดมิเนียม และ 3. จะแจ้งไปยังกรมขนส่งทางบก เพื่ออายัดการโอนรถยนต์ที่มีชื่อนายวิรพล หรือหลวงปู่เณรคำ ทั่วราชอาณาจักร เรื่องที่ 4 ซึ่งจะสอดคล้องกับเรื่องที่ 3 คือ ดีเอสไอจะแจ้งประสานไปยังสำนักงานป้องกันและปราปปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่ออายัดทรัพย์สินนอกเหนือจากชื่อนายวิรพล คือญาติที่ใกล้ชิด หรือนอมินี ซึ่งทาง ปปง.สามารถอายัดได้มากกว่าที่เป็นชื่อของนายวิรพล หรือหลวงปู่เณรคำ

อธิบดีดีเอสไอกล่าวอีกว่า เรื่องที่ 4 ในวันพฤหัสบดีที่ 18 ก.ค. ดีเอสไอโดยศูนย์ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย และทนายอาสา จะยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัว ในพื้นที่เกิดเหตุ จ.ศรีสะเกษ เพื่อขอให้ศาลสั่งให้เด็กชายอายุ 11 ขวบ ที่เกิดจากแม่ซึ่งอ้างว่าได้ร่วมหลับนอนกับนายวิรพลมาตั้งแต่อายุ 14 ปี เพื่อให้ศาลสั่งเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย และจะได้มีสิทธิรับทรัพย์สิน ค่าอุปการะเลี้ยงดูในส่วนที่ถูกกฎหมาย และเรื่องที่ 5 เราอยากได้พลเมืองดีในภาคประชาชนเพื่อแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับทรัพย์สินหรือกระบวนการที่เกี่ยวข้องโดยไม่ถูกต้องกับอดีตหลวงปู่เณรคำ และขอให้เข้ามาเป็นพยานในฐานะผู้เสียหาย เช่น เคยเลื่อมใสศรัทธา หลงเชื่อว่าจะไปสร้างวัด สร้างพระแก้วมรกตทองคำอะไรต่างๆ และบริจาคเงิน บริจาคทองคำไป จนในที่สุดก็รู้ความจริงแล้วว่าอดีตพระคนนี้ได้กระทำความผิดต่อพระวินัยอย่างยิ่ง ซึ่งเข้าข่ายเป็นการฉ้อโกง หากคิดว่าเป็นผู้เสียหายให้เข้ามาติดต่อที่ดีเอสไอ เพื่อเป็นพยาน โดยได้เปิดศูนย์ฮอตไลน์ที่สำนักคดีความมั่นคง ดีเอสไอ หมายเลขโทรศัพท์ 09-0123-1230

ส่วนเรื่องอายัดเงินจะต้องรอหมายจับจากศาลก่อนหรือกระทำได้เลยหรือไม่นั้น นายธาริตกล่าวว่า เรากำลังพิจารณาอยู่ แต่เราคิดว่าถ้าได้หมายจับของศาลก็จะมีความหนักแน่นในเหตุดำเนินการด้วย เพราะฉะนั้น แม้ว่าเรื่องจะไม่ได้เกี่ยวพันโดยตรง แต่การใช้อำนาจของเรานั้นจะใช้หลังวันพุธที่ 17 ก.ค.โดยเรามีผู้เสียหายส่วนหนึ่งแล้ว เช่น ผู้ที่บริจาคที่ดิน แต่เราคิดว่าเราไม่รู้ว่ามีผู้บริจาครายใหญ่มากน้อยแค่ไหน และถ้าได้พยานเพิ่มเติมก็จะเพิ่มความหนักแน่นในเนื้อหาของคดีว่าหลงเชื่อเพราะอะไรจึงไปทำบุญ ส่วนข้อหาที่จะขอออกหมายจับจะสามารถส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้หรือไม่ นายธาริตกล่าวว่า เรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดนเรายังไม่พูดถึง เนื่องจากประเด็นส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนจะใช้เวลามาก จึงเลือกใช้วิธีการผลักดันกลับประเทศ ซึ่งก็คือการเพิกหนังสือเดินทาง และเพิกถอนวีซ่า และจะส่งผลให้เขาไม่สามารถพำนักหรือลี้ภัย อาศัยอยู่ในประเทศนั้นๆ ได้ โดยวิธีดังกล่าวจะรวดเร็วกว่า เมื่อถามว่าขณะนี้ทราบสถานที่อยู่ของนายวิรพล หรือไม่ว่าอาศัยอยู่ในประเทศอะไร นายธาริตกล่าวว่า เป็นเพียงการข่าวซึ่งทางเรายังไม่กล้ายืนยันและการต่อไปอาจจะไม่เป็นผลดีต่อการดำเนินการเพื่อที่จะได้ตัวนายวิรพลกลับมาดำเนินคดี





กำลังโหลดความคิดเห็น