ดีเอสไอประสานตำรวจสากลร่วมไล่ล่า “ไอ้คำ” ชงบัวแก้วเสนอมะกันถอนวีซ่า

“ธาริต” เผยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามล่า “ไอ้คำ” แล้ว หลังศาลอนุมัติหมายจับ โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศขอให้ถอนพาสปอร์ต และติดต่อสหรัฐฯ เพื่อเลิกวีซ่า ขณะเดียวกันยังแปลหมายจับเป็นภาษาอังกฤษส่งให้อินเตอร์โปลร่วมติดตามจับกุมตัวอีกทาง ด้าน “หลวงปู่พุทธะอิสระ” เตรียมยื่นเอกสารร้องเรียนต่อ “สมเด็จพระวันรัต” ส่วน ปปง.เร่งวิเคราะห์เส้นทางการเงิน

หลังจากศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับนายวิรพล สุขผล อดีตหลวงปู่เณรคำ ในความผิด 3 ข้อหา คือ ฉ้อโกงประชาชน, กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งไม่ใช่ภรรยาตน โดยปราศจากเหตุอันควรในการพรากผู้เยาว์ไปจากบิดามารดา ผู้ปกครอง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตามมาตรา 14 ศาลรับคำร้องไว้พิจารณา ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เสนอ โดยศาลเห็นว่ามีหลักฐานพอสมควรให้เชื่อได้ว่าผู้ต้องหากระทำการที่จะเป็นความผิด 3 ข้อหาตามที่ดีเอสไอกล่าวหามาในคำร้อง และเห็นว่าตัวผู้ต้องหาไม่ได้อยู่ในประเทศเชื่อว่าน่าจะมีพฤติการณ์หลบหนี จึงอยู่ในเงื่อนไขที่ศาลจะพิจารณาอนุมัติหมายจับได้

เกี่ยวกับความคืบหน้าในการดำเนินการต่อนายวิรพล ล่าสุดนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า หลังจากศาลอาญาอนุมัติหมายจับนายวิรพล หรือเณรคำ ใน 3 ข้อหา ดีเอสไอได้เร่งดำเนินการตามหมายจับแล้ว โดยมี 2 ส่วนที่เร่งดำเนินการ คือ แจ้งไปสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ให้ทราบว่าศาลได้ออกหมายจับแล้ว อีกส่วนคือประสานไปยังกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้เพิกถอนหนังสือเดินทางของอดีตเณรคำ และประสานไปยังสถานทูตที่เป็นจุดหลบหนีของอดีตเณรคำ คือ สหรัฐอเมริกา เพื่อยกเลิกวีซ่าเข้าประเทศ

นายธาริตกล่าวว่า ดีเอสไอยังได้แปลหมายจับเป็นภาษาอังกฤษ และประสานไปยังตำรวจสากล หรืออินเตอร์โปล ให้นำหมายจับเข้าสู่สาระบบของอินเตอร์โปล เพื่อตามล่าตัวผู้ต้องหาอีกแรงหนึ่ง ซึ่งการดำเนินการเช่นนี้จะสามารถได้ตัวผู้ต้องหาเร็วขึ้น เพราะหากมีการถอนทั้งวีซ่าและหนังสือเดินทาง สถานภาพของอดีตเณรคำจะเป็นผู้หลบหนีเข้าเมือง ง่ายต่อการส่งตัวกลับ มากกว่าการที่จะส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ที่ต้องผ่านขั้นตอนของอัยการที่ต้องสั่งคดีก่อน จึงจะกระทำในลักษณะนี้ได้ ซึ่งจะใช้เวลานานมาก

ด้าน ร.ต.อ.หญิง สุวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวถึงการตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายวิรพล หรืออดีตเณรคำว่าอยู่ในขั้นตอนการวิเคราะห์ของคณะกรรมการธุรกรรมตามฐานข้อมูลที่มีอยู่ คาดว่าภายในวันศุกร์ที่ 19 ก.ค.นี้คงทราบผล ส่วนการตรวจสอบหลังจากนี้ตัองรอขั้นตอนการวิเคราะห์อีกครั้ง

สำหรับกระแสเงินในบัญชีของนายวิรพล สุขผล หรืออดีตเณรคำ ที่หายไปกว่า 300 ล้านบาทนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบไปยังสถาบันการเงินต่างๆ ส่วนจะเป็นการยักย้ายถ่ายเทเงินเพื่อหลบหนีการตรวจสอบหรือไม่นั้น ต้องดูก่อนว่ามีการถอนไปเมื่อไร แต่หากเงินถูกยักย้ายไปจริงก็ยังตรวจสอบได้ตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งเรามีอำนาจอยู่ หากเข้าข่ายความผิดมูลฐานฉ้อโกงประชาชนก็อาจเป็นความผิดฐานฟอกเงินด้วย และจะต้องดำเนินคดีอาญา ซึ่งคงจะอ้างว่าไม่ทราบคงไม่ได้ เพราะเป็นข่าวครึกโครมขนาดนี้ โดยผู้ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีเหล่านี้ต้องหยุดดำเนินการใดๆ และให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ

ส่วนทองคำจำนวน 8 ตัน ที่มีข่าวว่าอดีตเณรคำมีอยู่นั้นจะดำเนินการตรวจสอบไปพร้อมกัน โดยแลกเปลี่ยนข้อมูลกับดีเอสไอโดยตลอด

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันนี้ (18 ก.ค.) เวลา 12.00 น. หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จะเดินทางไปยื่นเอกสารร้องเรียนต่อสมเด็จพระวันรัต ในฐานะรักษาการเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต และกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ที่วัดบวรนิเวศวิหาร เพื่อร้องเรียนดำเนินการต่ออดีตเณรคำ