ประธานเครือข่ายร่วมพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนาฯ ร้องดีเอสไอสอบ "สมีคำ"แอบอ้างดอกไม้พระราชทาน พร้อมแฉ ทนาย 6 คนที่"สุขุม"ลั่นว่าจะช่วยคลี่คดี เป็นทนายจริงแค่คนเดียว เผยมีการลักลอบขนทองคำ ขณะที่สังคมออนไลน์วิจารณ์แซด! จับผิด ใบหู - ไฝ "สมีคำ - น้องชาย"ต่างกัน!
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 24 ก.ค.นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผบ.สำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ดีเอสไอ พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันกิจ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 2 ดีเอสไอ พ.อ.ชัชนันท์ เมธีธรรมาภรณ์ พ.ต.ท.วิชิต อุปะละ รอง ผบ.สำนักคดีความมั่นคง ดีเอสไอ ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าการสอบสวนดำเนินคดีกับนายวิรพล สุขผล หรืออดีตหลวงปู่เณคำ ที่อยู่ระหว่างการประสานงานต่างประเทศผลักดันกลับประเทศไทย โดยมี นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายร่วมพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พร้อมพระสงฆ์ 45 รูป เข้ายื่นคำร้องทุกข์กล่าวโทษต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อให้สอบสวนกรณีปรากฏคลิปในยูทิวบ์ชื่อ ดอกไม้พระราชทาน ที่มีการกล่าวอ้างว่ามีการถวายแด่พระอาจารย์วิรพล ฉัตติโก หรือหลวงปู่เณรคำ เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2555 ณ สำนักสงฆ์ ขันติบารมีธรรม สาขา 101 อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ว่าเป็นความจริงหรือไม่ เบื้องต้นดีเอสไอรับเรื่องไว้ตรวจสอบข้อเท็จจริง
นายธาริต กล่าวว่า ประเด็นเรื่องดอกไม้พระราชทาน เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสำนักพระราชวังโดยตรง และเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง ดีเอสไอก็รับข้อมูลจากนายสงกรานต์ไว้ แต่ดีเอสไอจะทำงานด้วยความระมัดระวัง และจะประสานกับสำนักพระราชวังอย่างใกล้ชิด คงเหมาะที่จะพูดเพียงแค่นี้
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าว่า ล่าสุดได้ตรวจสอบการเดินทางออกนอกประเทศของอดีตหลวงปู่เณรคำ พบว่า ได้เดินทางออกนอกประเทศพร้อมพวกรวม 10 คน ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค. 2556 ขณะนี้เดินทางกลับมาแล้ว 6 คน ยังเหลืออยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา 4 คน ประกอบด้วย อดีตหลวงปู่เณรคำ พระภูมินทร์ สองสี พระจำรัส ผู้ดี และ พระสุดใจ ทิศกระโทก ซึ่งดีเอสไอได้ประสานงานกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องในต่างประเทศ และมีความคืบหน้าตลอด
พ.อ.ชัชนันท์ กล่าวว่า ดีเอสไอได้ออกหมายเรียกพ่อ แม่ และน้องชาย ของนายวิรพล เพื่อเข้าให้ปากคำ และขอตรวจดีเอ็นเอในประเด็นเรื่องภาพถ่ายที่มีปัญหาว่า น้องชายของนายวิรพล คือ นายสุริ สุขผล ได้อ้างว่าเป็นผู้ชายเจ้าของภาพ โดยเรื่องนี้จะเรียกสอบปากคำ หากผลพิสูจน์ภายหลังพบว่าเป็นการให้การเท็จก็จะถูกดีเอสไอดำเนินคดีฐานให้การเท็จต่อเจ้าพนักงาน ส่วนประเด็นเรื่องรูปภาพจากการตรวจสอบร่วมกับผู้เชี่ยวชาญของหลายหน่วยงานพบประเด็นมั่นใจว่าไม่ใช่นายสุริ แน่นอน และมี 6 จุดที่สังเกตได้ คือ 1.ใบหูของน้องชายเป็นรูปกลม แต่ของอดีตหลวงปู่เณรคำมีทรงหยักๆ 2. คางมีลักษณะไม่เท่ากัน 3.จมูกน้องชายมีลักษณะไม่เหมือนรูปที่เป็นข่าว แต่ทางอดีตหลวงปู่เณรคำเหมือนมากกว่า 4.รูปจุดไฝลักษณะของน้องชายต่างจากในรูปมาก 5.บริเวณหน้าผากน้องชายมีจุดไฝต่างจากจุดรูปที่เป็นข่าว และ 6.จุดต่างๆ ตรงกับอดีตหลวงปู่เณรคำทุกประการ เช่น จมูก ไฝรูปใบหู
พ.อ.ชัชนันท์ รอง ผบ.สำนักคดีความมั่นคง ดีเอสไอ กล่าวอีกว่า ที่สำคัญเมื่อวานนี้ (23 ก.ค.) ชุดสอบสวนดีเอสไอได้ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อทำการสอบปากคำพยานสำคัญรายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิดอดีตพระเณรคำ และเป็นผู้ดำเนินการทุกเรื่องให้กับอดีตพระเณรคำ รวมทั้งการจ่ายเงิน โดยพยานให้การยืนยันว่า น.ส.เอ ที่มีบุตรด้วยกัน มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนายวิรพล แน่นอน เพราะว่าพยานเป็นผู้ส่งเสียเงินให้เป็นประจำ ส่วนน้องบี ที่สร้างบ้านให้ 2 ล้าน พยานก็ยืนยันว่ามีความสัมพันธ์แน่นอน เพราะเคยติดตามไปหลายครั้ง และเรื่องแหล่งมั่วสุม 3-4 แห่ง พยานได้ให้การว่านายวิรพล ไปมั่วสุมปาร์ตี อัปยา และผู้หญิงเป็นประจำ ที่บ้านที่ ต.คำน้ำแซ่บ อ.วารินชำราบ และในเขต อบต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ ซึ่งบ้านทั้งสองหลังอยู่ห่างกันไม่กี่กิโลเมตร และในรถบัสที่มีการดัดแปลงสภาพเอาที่นั่งออกใช้เป็นที่จัดปาร์ตี โดยมีฉากกั้นคนขับรถก็วิ่งไปเรื่อยๆ ทั้งนี้ยืนยันได้ว่าข้อมูลที่ดีเอสไอได้ค่อนข้างเป็นจริง
ด้าน ประธานเครือข่ายร่วมพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ กล่าวว่า สำหรับพฤติการณ์ของนายวิรพล กับพวกนั้น เมื่อเช้าตนได้ยื่นหนังสือถึงสำนักราชเลขาธิการ เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดอกไม้พระราชทาน พร้อมขอให้สำนักราชเลขาธิการ ส่งผลการตรวจสอบมายังดีเอสไอ ทั้งนี้คดีดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกับคดีพระสมเด็จเหนือหัว คือบิดเจตนาของดอกไม้สด มีคลิปที่ปรากฏผิดปกติ โดยตนจะมอบหลักฐานทั้งซีดี และภาพนิ่งให้ดีเอสไอไว้ตรวจสอบ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลของกรรมการบริษัทของนายวิรพล ที่ปรากฏในยูทิวบ์ดังกล่าวด้วย แต่ภายหลังจากเป็นข่าวคลิปได้ถูกลบไป และคลิปที่ถูกลบไปนั้นถือเป็นกระบวนการสร้างภาพเพื่อให้คนเกิดศัทธาโดยการอ้างสถาบัน
นายสงกรานต์ กล่าวอีกว่า สำหรับบริษัทของนายวิรพล นั้นจะเป็นตัวเดินเรื่องทั้งการเงิน ส่วนเรื่องทองคำ 8 พัน กก.ตนได้รับการแจ้งเบาะแสว่ามีกลุ่มพ่อค้าเงินพ่อค้าทองอ้างสร้างเครื่องทรงละ 3 พันกิโลกรัม 3 ฤดู รวมทองคำ 9 พัน กก.นอกจากนี้มีการลักลอบนำทองคำเข้าประเทศ โดยมีทองคำที่รับบริจาคมาส่วนหนึ่ง ขณะเดียวกันตนมีผู้เสียหายเป็นแม่หมอถูกเณรคำหลอกไป 1 แสนบาท อ้างว่าบุตรชายที่ตายจะเกิดมาภายในสามเดือน จึงศรัทธาเชื่อว่าเณรคำเป็นพระอรหันต์
ส่วนกรณีที่ นายสุขุม วงประสิทธิ อ้างว่ามีทนายความชื่อดัง 6 คน พร้อมมาต่อสู้คดี โดยเมื่อเช้านี้ตนได้ไปตรวจสอบกับสภาทนายความ ปรากฏว่ามีทนายจริงเพียงคนเดียว และมีเอกสารของสภาทนายความยืนยันรายชื่อทนายที่นายสุขุมอ้างนั้น ไม่ปรากฏชื่อในสารบบสภาทนายความ พร้อมเตรียมยื่นเรื่องให้ประธานกรรมการว่าด้วยมารยาท สภาทนายความตรวจสอบว่า มีทนายความเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่กับกรณีให้ตัวแทนไปยื่นเรื่องที่ต่างๆ
นอกจากนี้ยังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคมออนไลน์หลังจากที่น้องชายเณรคำ นายสุริ สุขผล อายุ 31 ปี ออกมายอมรับว่าบุคคลในภาพที่หลุดมาก่อนหน้านี้คือตนเอง ท่ามกลางความกังขาของชาวเน็ตที่ว่าเหตุใด น้องชายถึงเพิ่งจะออกมายอมรับ
ทั้งนี้ ในเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ชาวเน็ตได้ออกมาแสดงความคิดเห็นภาพหลุดชายที่ถูกระบุก่อนหน้านี้ว่า คือ หลวงปู่เณรคำนอนอยู่กับหญิงสาว ต่อมา น้องชายของเณรคำได้ออกมายอมรับโดยบอกว่าภาพดังกล่าวบุคคลที่เห็นนั้นคือตนเองและเด็กเป็นลูกของตนเองเช่นกันพร้อมให้ตรวจ DNA เพื่อยืนยันความจริง ทั้งหมดสร้างความกังขาให้กับชาวเน็ตเป็นอย่างมาก ซึ่งมีการตั้งกระทู้เพื่อให้ทุกคนช่วยกันตรวจสอบว่าเป็นความจริงหรือไม่
โดยกระทู้ใช้ชื่อประเด็นว่า“จับผิดภาพ “เณรคำนอนกับสีกา” ถูกตั้งโดย สุภาพบุรุษตัดต่อ ซึ่งมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างล้มหลาม และหนึ่งในนั้นมีชาวเน็ตที่ใช้ชื่ออ้างอิงว่า gamem13 ได้โพสต์ภาพชายที่นอนกับหญิงสาวเทียบกับเณรคำ ซึ่งภาพดังกล่าวได้มีการจับภาพใบหูที่มีลักษณะเหมือนกัน ตำแหน่งไฝเดียวกัน ลักษณะจมูกมีรูปทรงเหมือน
ซึ่งหลังจากนั้นได้มีการนำภาพของ นายสุริ น้องเณรคำ มาเทียบกับบุคคลในภาพที่นอนกับหญิงสาว ปรากฏว่ามีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นโดยบอกว่า ใบหูไม่เหมือนกัน ตำแหน่งไฝไม่มี โดยใบหูของน้องชายเณรคำนั้นมีลักษณะยาวกว่าในภาพที่มีลักษณะงุ้มเข้า เข้าข่ายคล้ายกับของ เณรคำ มากกว่า
