“สุขุม” ควงศิษย์สมีคำ แต่งชุดเงาะหาบกล้วย-สับปะรด มอบ “ธาริต” ประชดดีเอสไอทำงานไม่เป็นตาสับปะรดจับตัว “สมีคำ” ไม่ได้!
ที่กระทรวงการต่างประเทศ เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 19 ก.ค. พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทร์ขาว ผบ.สำนักคดีความมั่นคง ดีเอสไอ พร้อมด้วยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สำนักคดีความมั่นคง ดีเอสไอ ได้เดินทางไปยังกระทรวงการต่างประเทศ ถนนศรีอยุธยา เพื่อส่งแฟ้มข้อมูลในคดีของนายวิรพล หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ ประกอบด้วยหมายจับและรูปพรรณสัณฐาน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องจำนวนหนึ่งเพิ่มเติมประกอบการพิจารณาเพิกถอนหนังสือเดินทางของนายวิรพล ปรากฏว่า ทางเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ แจ้งว่า พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ต้องไปส่งข้อมูลที่กรมการกงสุล ถนนแจ้งวัฒนะ ทั้งที่ได้นัดส่งหมายจับข้อมูลเพิ่มเติมของนายวิรพลไว้ล่วงหน้า พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จึงเดินทางไปยังกรมการกงสุล เพื่อยืนเอกสารข้อมูลของนายวิรพลอีกครั้ง
พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ กล่าวว่า เดินทางมากระทรวงการต่างประเทศ เพื่อจะมาหารือแนวทางการเพิกถอนหนังสือเดินทาง เพื่อผลักดันนายวิรพลกลับประเทศ พร้อมจะมอบข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ในการพิจารณา คาดว่าต้องใช้พิจารณาเวลา 2-3 วัน ส่วนการประสานตำรวจสากล ต้องรอกระบวนการเพิกถอนหนังสือเดินทางผลักดันกลับประเทศก่อนว่าได้ผลอย่างไรบ้าง
ต่อมาเวลา 16.00 น.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ นายสุขุม วงประสิทธิ ประธานเครือข่ายบ้านวิมุติธรรม และ นายเริงศักดิ์ กำธร ลูกศิษย์อดีตพระเณรคำ ที่แต่งตัวเป็นเงาะป่า นุ่งผ้าขาวม้าโจงกระเบนสีแดง ทัดดอกไม้แดงที่หู ใช้สีดำทาลำตัวและหน้าใส่วิกผมหยิก ใช้ไม้ไผ่หาบกล้วยหอมดิบและสับปะรด เดินทางมาเพื่อติดต่อมอบหนังสือให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ โดยมี พ.ต.ต.วรนันท์ ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ ดีเอสไอ รับเรื่องแทน
นายสุขุม กล่าวว่า รูปเงาะ ซึ่งมีสัญลักษณ์อัปลักษณ์ ผิวดำผมหยิก แท้จริงแล้วเป็นภาพลวงตาของพระสังข์ทองที่มีรูปลักษณ์ที่แท้จริงงดงาม ดั่งทองคำ คนภายนอกที่ไม่เข้าใจจะเห็นเพียงเปลือกนอกที่หุ้มเนื้อทองไว้ ส่วนสาเหตุที่นำสับปะรดมาให้ เนื่องจากดีเอสไอทำงานไม่เป็นสับปะรด ส่วนกล้วยหอมเป็นรางวัลการทำงานของดีเอสไอที่พยายามลัดขั้นตอน พร้อมทั้งขอให้ตั้งกรรมการสอบสวนอธิบดีดีเอสไอ กรณีแถลงข่าวว่าผลตรวจดีเอ็นเอยืนยันผลได้ 99.99 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่บทความวิชาการของ พญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ระบุว่าการตรวจดีเอ็นเอ พิสูจน์ความเป็นพ่อลูกกันต้องตรวจจากพ่อ ถึงอย่างน้อย 10 จุด หรืออย่างในอเมริกาต้องตรวจถึง 13 จุด ถึงจะมีความเชื่อมั่นของผลตรวจดีเอ็นเอประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ พร้อมมอบหลักฐานว่าช่วงนี้ป่วยจึงไม่สามารถเข้าให้การกับดีเอสไอได้ตามนัด และมอบภาพถ่ายน้องชายนายวิรพล ร่วมพ่อแม่เดียวกันอายุห่างกัน 1 ปี ที่บวชเป็นพระซึ่งหน้าตาคล้ายกันให้ดีเอสไอนำไปตรวจสอบด้วย
พ.ต.ต.วรนันท์ กล่าวว่า อยากให้ลูกศิษย์นายสุขุม ถ้ามีพยานหลักฐานหรือข้อมูลก็ให้นำมามอบให้ดีเอสไอ ทางดีเอสไอยินดีรับไว้ตรวจสอบ เพื่อใช้พิสูจน์ความเป็นธรรมได้อย่างเป็นระบบ ส่วนข้อมูลที่นายสุขุม ยื่นไว้วันนี้จะประมวลเสนอผู้บังคับบัญชาต่อไป