xs
xsm
sm
md
lg

การเมืองบีบ “อดุลย์” เคลียร์พื้นที่ เปิด 2 เก้าอี้ “ผบช.” จัดโผนอกฤดู

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.
สน.พระอาทิตย์ / สามยอด

ในที่สุดการแต่งตั้ง “นายพล” สีกากีนอกฤดู ที่มีปัญหาค้างเติ่งมานานเกือบ 1 เดือน ก็ได้ข้อสรุปแบบวิน-วินกันทุกฝ่าย หลังจากต้องสะดุดหยุดลง เพราะตำแหน่งไม่ลงตัว

เมื่อเก้าอี้น้อยแต่มีคนอยากจะนั่งเยอะ ลิเกก็ต้องลาโรงชั่วคราว รอจนทุกอย่างลงตัว ปี่พาทย์ก็เริ่มบรรเลงลิเกก็เริ่มร่ายร่ำกันต่อ

เดิมการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับ ผบช.-ผบก.นอกวาระประจำปี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.วางไว้ให้เสร็จภายในกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา พร้อมกับการแต่งตั้งตำรวจให้ดำรงตำแหน่งหน่วยงานที่เกิดใหม่ แต่สุดท้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็สามารถแต่งตั้งตำรวจได้เฉพาะตำแหน่งเปิดใหม่เท่านั้น ส่วนตำแหน่งที่ขยับขึ้นแทนตำแหน่งที่ว่างไม่สามารถแต่งตั้งโยกย้ายได้

ตามล็อกที่วางกันไว้ พล.ต.อ.อดุลย์ ต้องการผลักดันให้เพื่อนร่วมรุ่น พล.ต.ต.โกศล พัวเวส รอง ผบช.ภ.2 นรต.29 รุ่นเดียวกับ ผบ.ตร.ขยับขึ้นติดยศ “พล.ต.ท.” ก่อนเกษียณราชการปลายเดือนกันยายน 2556 นี้ ตามมติรุ่น ที่ให้ พล.ต.ท.พจน์ ไทยกล้า จเรตำรวจ(สบ8) นรต.29 เช่นเดียวกัน เสียสละเปิดทางให้เพื่อน

แต่พอ พล.ต.ท.พจน์ จะลาอออกจากราชการเสียสละให้เพื่อนขึ้นจริงๆ กลับกลายเป็นว่า พล.ต.ต.โกศล อาจจะไม่ได้ขึ้นแทนเพื่อนตามที่ นรต.29 ขอโควตากับผู้มีอำนาจต่างแดนไว้ แม้จะมีอาวุโสระดับ รอง ผบช.อยู่ลำดับที่ 1

เมื่อมีการเมืองเข้ามาแทรกจะขอโควตาไปใช้

ด้วยข้ออ้างถึงจะอาวุโสสูงสุด แต่ตำแหน่งว่างตำแหน่งเดียวลำดับอาวุโสก็ไม่สำคัญ ใครก็สามารถขึ้นได้ ทำให้ พล.ต.อ.อดุลย์ รับรู้ถึงสัญญาณ “ตาอยู่” จะเข้ามาหยิบชิ้นปลามันไปกิน จึงต้องชะลอการลาออกจากราชการของ พล.ต.ท.พจน์ ออกไปก่อน

จากนั้น พล.ต.อ.อดุลย์ ก็ไปเจรจากับผู้มีอำนาจใหม่ และยืนยันจะขอโควตา พล.ต.ท.พจน์ เพื่อนร่วมรุ่นที่ลาออกให้กับเพื่อนร่วมรุ่นอีกคนขึ้นแทน ตามมติรุ่น 29 ที่มีการตกลงกันไว้นานแล้ว กระทั่งมีการต่อรองด้วยเงื่อนไขที่ถูกเสนอออกมาให้ พล.ต.อ.อดุลย์ ไปหาตำแหน่ง “ผบช.”มาเพิ่มขึ้นอีก 1 ตำแหน่ง รวมเป็น 2 หรือ 3 ตำแหน่ง ก็จะยอมให้ พล.ต.อ.อดุลย์ ผลักดันเพื่อนร่วมรุ่นขึ้นใช้สิทธิโควตา

จนมีข่าวนินทากันภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติถึงคำพูดที่ว่า “เมื่อเค้ากล้าขอ เราก็กล้าให้”

ยุทธการหา “ผบช.” สมัครใจลาออกจากตำแหน่งจึงเกิดขึ้น และหวยก็ไปออกมา พล.ต.ท.ยงยศ นาคเฉลิม จเรตำรวจ (สบ8) นรต.รุ่น 28 ซึ่งจะเกษียณราชการวันที่ 30 กันยายน 2556 นี้ ที่ยอมเสียสละลาออกเปิดตำแหน่งระดับ ผบช.ให้ว่างลงอีกตำแหน่ง เมื่อรวมกับตำแหน่งของ พล.ต.ท.พจน์ อีกตำแหน่งหนึ่งก็จะทำให้เก้าอี้ ผบช.ว่าง 2 ที่นั่งพอดิบพอดี สามารถใช้การแต่งตั้งประเภทอาวุโส 1 ตำแหน่ง ความรู้ความสามารถอีก 1 ตำแหน่ง

สัญญาณเริ่มชัดเจนขึ้น พล.ต.อ.อดุลย์ จึงเดินหมากการผลักดันเพื่อนร่วมรุ่นขึ้น “ผบช.” ติดยศ “พล.ต.ท.”อีกราย โดยการให้ พล.ต.ต.พจน์ ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนพล.ต.ท.ยงยศ เพิ่งมีการตกลงข้อเสนอบางประการในทางลับเสร็จสิ้น ก็เลยเพิ่งยื่นหนังสือลาออกจากราชการทีหลัง โดยหนังสือลาออกจะมีผลวันที่ 1 มิถุนายน 2556 เป็นต้นไป

เมื่อรันเวย์ถูกเคลียร์เรียบร้อย ราวๆ ต้นเดือนมิถุนายน หรืออย่างช้าไม่เกินกลางเดือนมิถุนายนนี้ คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานหัวโต๊ะ ก็จะได้ฤกษ์ประชุมพิจารณาแต่งตั้งนายพลนอกวาระประจำปีเสียที

และก็ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาดเก้าอี้ของ พล.ต.ท.พจน์ จะมี พล.ต.ต.โกศล พัวเวส รองผช.ภ.2 นรต.29 ขยับขึ้น เป็น จเรตำรวต (สบ8) ตามโควตารุ่น 29 แต่ตำแหน่งของ พล.ต.ท.ยงยศ ซึ่งเป็นโควตาความรู้ความสามารถ คาดว่าจะเป็นนายตำรวจระดับ รอง ผบช.ที่ได้รับการสนับสนุนจากขั้วการเมืองพรรคเพื่อไทยคว้าเก้าอี้ไปครอง

โดยมีรายชื่อผู้ที่เข้าข่ายแคนดิเดตอยู่ 2 รายคือ พล.ต.ต.โกสินทร์ หินเธาว์ รอง ผบช.ก.ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบ้านจันทร์ส่องหล้า พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น. ก็มีแรงหนุนจากคนพรรคเพื่อไทย ที่น่าจะขยับติดยศ “พล.ต.ท.” ตำแหน่งจเรตำรวจ(สบ8) แทน พล.ต.ท.ยงยศ เพราะทั้ง พล.ต.ต.โกสินทร์ และ พล.ต.ต.วรศักดิ์ ล้วนมีสายสัมพันธ์กับพรรรคเพื่อไทยเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับคนแดนไกล เนื่องจากทั้ง 2 คนเคยนั่งเก้าอี้ผู้การฯกองปราบปราม สมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคดีอาญา และเครือข่ายเรืองอำนาจ

นอกจากนี้ เมื่อมีการขยับตำแหน่งระดับ “ผบช.”เรียบร้อยแล้ว ในระดับรองๆ ลงในระนาบต่างๆ ก็จะสามารถขยับตามไปด้วย ซึ่งคาดกันว่า พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.2 สายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย จะขยับขึ้นไปเป็น รอง ผบช.แทน พล.ต.ต.โกสินทร์ หรือ พล.ต.ต.วรศักดิ์ พล.ต.ต.อัครชัย พงษ์ศิริ ผบก.ภ.จ.ปราจีนบุรี ขึ้น รอง ผบช.ภ.2

พล.ต.ต.กฤษฎิ์ เปียแก้ว ผบก.น.5 โดนพิษบ่อนพนันในพื้นที่หลายครั้ง จะถูกขยับไปเป็น ผบก.น.2 และเปิดโควตา นรต.28 ที่ พล.ต.ท.ยงยศ ยอมเสียสละ ผลักดัน พ.ต.อ.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ รอง ผบก.น.6 นรต.28 รุ่นเดียวกับ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.ยงยศ ขึ้น ผบก.น.5 ซึ่งนอกจาก พ.ต.อ.สืบศักดิ์ เป็นเพื่อนร่วมรุ่นนรต.28 แล้ว เจ้าตัวยังสร้างผลงานเป็นผู้เบิกความคดีไต่สวนชันสูตรศพ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของคนเสื้อแดง จนเชื่อว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐในรัฐบาลอภิสิทธิ์เป็นผู้ลงมืออีกด้วย

ส่วนตำแหน่งของ พล.ต.ท.สุพร พันธุ์เสือ ผบช.สกบ.ที่ผ่านมติบอร์ดกลั่นกรองให้ไปเป็น ผบช.สตส.สลับ พล.ต.ท.สุชีพ หนูนาง ผบช.สตส.เพื่อนร่วมรุ่น 29 ของพล.ต.อ.อดุลย์ ที่วางให้ไปเป็น ผบช.สกบ.หลังจากเกิดปัญหาโครงการสร้างโรงพักทดแทน 396 แห่ง พล.ต.ท.สุพร มีการเคลียร์ตัวเองเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างจึงยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง พล.ต.ท.สุพร ก็ยังคงดำรงตำแหน่งเดิมต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น