“ธาริต” ยันดีเอสไอทำตามหน้าที่และเหมาะสม ไม่หวั่นคำฟ้อง ชี้ “พล.ต.ท.สมคิด” ส่งทนายมาฟ้องหมิ่นเป็นเพียงขั้นตอนการับคำฟ้องไว้ไต่สวนซึ่งยังไม่ชี้ถูกผิด
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (22 พ.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เผยถึงกรณีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีตจเรตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ทนายไปฟ้องตนในข้อหมิ่นประมาทที่มีการให้ข่าวเรื่องการคัดค้านเพิกถอนการปล่อยชั่วคราว พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม และ พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี คดีอุ้มฆ่า นายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย เนื่องจากว่าจำเลยทั้งสองมีพฤติการณ์ข่มขู่พยาน มีความหนักใจในเรื่องนี้หรือไม่ และจะมีมุมมองในการต่อสู้คดีอย่างไรนั้น ว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นคำฟ้องดังกล่าว และยังไม่รู้รายละเอียด แต่ตนมีข้อสังเกตที่สามารถพูดได้ในขณะนี้คือ การที่ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษโดยอธิบดีได้ยื่นคำร้องต่อศาลให้ถอนประกันและในที่สุดศาลก็ได้กรุณาสั่งกำหนดเงื่อนไขหลายประการ รวมไปถึงการไม่ไปข่มขู่พยาน หรือไม่แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ทั้งนี้เราพอใจในผลของการพิพากษา ส่วนการที่ฟ้องคดีนั้น ต้องเรียนว่าการฟ้องคดีอาญาโดยผู้เสียหายฟ้องเองไม่ผ่านพนักงานอัยการ ซึ่งในกฎหมายบ้านเราถือว่าศาลยังไม่ประทับรับฟ้องคดีนั้นจนกว่าจะมีการไต่สวนมูลฟ้องเสียก่อนและจึงจะรับฟ้องไว้ ดังนั้นขั้นตอนนี้จึงเป็นเพียงการับคำฟ้องไว้ไต่สวนซึ่งยังไม่มีการชี้ถูกหรือผิดในชั้นนี้ อย่างไรก็ตามตนอยากเรียนว่าตนทำหน้าที่ตามปกติ และในคดีของดีเอสไอกำลังทำอยู่นั้นมันเป็นเรื่องที่สำคัญ และสื่อมวลชนก็ติดตาม ที่สำคัญที่สุดมูลกรณีของเรื่องนี้เกิดจาก พล.ต.ท.สมคิด กับพวก ได้แถลงข่าวผ่านสื่อมวลชนบางสำนัก บางฉบับติดต่อกันเป็นเวลากว่า 20 วัน ซึ่งการแถลงข่าวดังกล่าวก็มีพฤติการณ์ของการทำให้เกิดความเสียหายต่อการพิจารณาของศาล ดังนั้นการที่ดีเอสไอตัดสินใจยื่นคำร้องถอนประกันจึงเป็นสิ่งที่เราต้องดำเนินการ ทั้งในส่วนที่ พล.ต.ท.สมคิด เคยแถลงข่าวทำให้เกิดความเสียหายต่อการดำเนินคดีและคุกคามพยาน
อย่างไรก็ตามปฐมบทของเรื่องนี้มาจากการแถลงข่าวของ พล.ต.ท.สมคิด ซึ่งเวลาเรายื่นคำร้องถอนประกันเราก็ต้องเปิดเผย และการที่เราดำเนินการขอให้ศาลถอนประกันก็มีความเหมาะสมที่จะต้องให้สื่อทราบด้วย ดังนั้นการดำเนินการของเราในการเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะนั้น จึงไม่น่าจะเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาท และหนังสือพิมพ์ทั้งสองฉบับที่ถูกฟ้องก็ทำหน้าที่สื่อกลางไปสู่สาธารณชน ก็ไม่ควรถูกฟ้องด้วยเช่นกัน