รมว.กระทรวงท่องเที่ยว มอบนโยบายตำรวจท่องเที่ยว โดยมี พล.ต.ต.รอย อิงคโพโรจน์ ผบก.ทท.และข้าราชการตำรวจในสังกัดให้การต้อนรับ ณ กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
ชมคลิป...
เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (3 พ.ค.) นายสุรศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รมว.กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมคณะได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมข้าราชการ เจ้าหน้าที่ เพื่อมอบนโยบายและรับฟังปัญหาการปฏิบัติงานของกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมประชุมผ่านระบบสื่อสารผ่านดาวเทียม หรือวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ไปยังกองกำกับการของตำรวจท่องเที่ยวทั้ง 6 กองกำกับการทั่วประเทศ โดยมี พล.ต.ต.รอย อิงคโพโรจน์ ผบก.ทท.และข้าราชการตำรวจในสังกัดให้การต้อนรับ ณ กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รมว.กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า หลังประชุมร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวแล้วพบว่าตำรวจทุกนายมีความตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อนักท่องเที่ยว ส่วนเรื่องปัญหาที่ติดขัดในการปฏิบัติงานของตำรวจท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของข้อกฎหมายที่มีการติดขัดอยู่บ้าง ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนรับฟังและจะนำไปปรึกษากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การทำงานในการดูแลและอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นไปง่ายขึ้น เช่น เรื่องของใบขับขี่สากล ซึ่งทางตำรวจท่องเที่ยวได้พบปัญหาว่ามีนักท่องเที่ยวชาวจีนขับรถมาเที่ยวประเทศไทย โดยใช้เส้นทางอาร์ 3 เอ ผ่านจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวจากจีนตอนใต้ แต่มาติดขัดเรื่องใบขับขี่เพราะกลุ่มคนเหล่านี้ไม่มีใบขับขี่สากล ทำให้ไม่สามารถขับขี่รถยนต์ของตนในประเทศไทยได้ ตนจึงมีแนวคิดที่อาจจะมีการออกใบอนุญาตขับขี่รถยนต์สากลแบบชั่วคราว ให้กับนักท่องเที่ยวแต่จะเป็นไปได้หรือไม่นั้น จะนำเรื่องนี้ไปหารือกับกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ในวันที่ 10 พ.ค. 56 นี้ หากเป็นไปได้จะเป็นการอำนวยความสะดวกและสร้างความคุ้มครองให้แก่นักท่องเที่ยวมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีแนวคิดที่จะจัดตั้งศาลท่องเที่ยว เพื่อดูแลคดีที่เกิดกับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ เพื่อให้มีกระบวนการยุติธรรมในการดูแลนักท่องเที่ยวทั้งระบบ ซึ่งเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้นเมื่อเข้ามาท่องเที่ยวหรือพักอาศัยอยู่ในประเทศไทย และเมื่อนักท่องเที่ยวเกิดความเชื่อมั่นก็จะทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้นและอาจส่งผลให้สามารถสร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวได้ถึง 2 ล้านล้านบาท ในปี พ.ศ. 2558 ตามที่รัฐบาลกำหนดไว้