ดีเอสไอแจ้ง 2 ข้อหาผู้บริหารพีซีซี ฉ้อโกงแถมฮั้วประมูล เผยเจตนากดราคาต่ำกว่าความเป็นจริง ชี้ความผิดทั้งจำคุกและปรับมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2,900 ล้านบาท
วันนี้ (6 มี.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงการแจ้งข้อกล่าวหาในคดีฉ้อโกงกับผู้บริหารบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ในคดีการก่อสร้างสถานีตำรวจ (ทดแทน) ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่านอกจากการแจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกงแล้วพนักงานสอบสวนยังได้หารือและมีมติแจ้งข้อหาเพิ่มกับผู้บริหารพีซีซีฐานทำให้ สตช.เสียหายโดยตรง คือการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ความผิดว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ มาตรา 8 คือกรณีมีการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ โดยรู้ว่าราคาที่เสนอนั้นต่ำมากเกินกว่าปกติจนเห็นได้ชัดว่า ไม่เป็นไปตามลักษณะสินค้าหรือบริการ หรือเสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่หน่วยงานของรัฐสูงกว่าความเป็นจริงตามสิทธิที่จะได้รับ โดยมีวัตถุประสงค์เป็นการกีดกันการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม โดยกรณีดังกล่าวมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-3 ปี ปรับร้อยละ 50 ของจำนวนเงินที่มีการเสนอราคาหรือคิดเป็นเงินที่ต้องปรับมูลค่าถึง 2,900 ล้านบาท รวมถึงต้องชดใช้ค่าเสียหายตามจริงที่ได้เบิกงบประมาณไปจาก สตช.ได้
นายธาริต กล่าวอีกว่า ในวันที่ 7 มี.ค.ผู้บริหารบริษัท พีซีซี 3 ราย จะเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดีฉ้อโกง แล้วพนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 8 ของ พ.ร.บ.ฮั้วประมูลควบคู่ไปด้วยทันที โดยคดีนี้จะถือเป็นคดีแรกของดีเอสไอที่มีการแจ้งข้อกล่าวหาความผิดฮั้วประมูลกับบริษัทเอกชน ซึ่งคดีในลักษณะนี้ไม่สามารยอมความได้
