พ.ต.ท.ถวัล มั่งคั่ง ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าชุดสอบสวน คดีฉ้อโกงโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีดังกล่าวว่า ล่าสุดมีผู้รับเหมาช่วงการก่อสร้างจากบริษัทพีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เข้าร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีฉ้อโกงกับบริษัทพีซีซีฯ แล้ว 25 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 50 ล้านบาท
โดยขณะนี้ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารชี้แจงของบริษัท พีซีซีฯ ซึ่งยังมีเอกสารสำคัญบางส่วนที่ยังไม่ส่งมอบให้ดีเอสไอ โดยเฉพาะเอกสารการมอบอำนาจจาก สตช.ให้ไปจ้างช่วงต่อได้หรือไม่ โดยดีเอสไอได้แจ้งให้บริษัทพีซีซีฯ ส่งเอกสารสำคัญฉบับดังกล่าว มายืนยันกับดีเอสไอภายในสัปดาห์นี้ หากไม่ส่งมอบแสดงว่า บริษัท พีซีซีฯ ไม่ได้รับมอบอำนาจให้ไปจ้างช่วงต่อ แต่ได้นำงานที่ไม่ได้รับอนุญาต ไปว่าจ้างช่วงต่อ เข้าข่ายเจตนาฉ้อโกงอย่างชัดเจน ดังนั้นตนจะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกงกับผู้บริหาร และผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทพีซีซีฯ ทันที โดยไม่จำเป็นต้องเรียกเข้าชี้แจงเพิ่มเติม แต่หากมีเอกสารยืนยันว่า ได้รับอนุญาตให้จ้างช่วงต่อจะยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา
โดยขณะนี้ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารชี้แจงของบริษัท พีซีซีฯ ซึ่งยังมีเอกสารสำคัญบางส่วนที่ยังไม่ส่งมอบให้ดีเอสไอ โดยเฉพาะเอกสารการมอบอำนาจจาก สตช.ให้ไปจ้างช่วงต่อได้หรือไม่ โดยดีเอสไอได้แจ้งให้บริษัทพีซีซีฯ ส่งเอกสารสำคัญฉบับดังกล่าว มายืนยันกับดีเอสไอภายในสัปดาห์นี้ หากไม่ส่งมอบแสดงว่า บริษัท พีซีซีฯ ไม่ได้รับมอบอำนาจให้ไปจ้างช่วงต่อ แต่ได้นำงานที่ไม่ได้รับอนุญาต ไปว่าจ้างช่วงต่อ เข้าข่ายเจตนาฉ้อโกงอย่างชัดเจน ดังนั้นตนจะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกงกับผู้บริหาร และผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทพีซีซีฯ ทันที โดยไม่จำเป็นต้องเรียกเข้าชี้แจงเพิ่มเติม แต่หากมีเอกสารยืนยันว่า ได้รับอนุญาตให้จ้างช่วงต่อจะยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา