นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีทุจริตโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทนจำนวน 396 แห่งทั่วประเทศ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ในวันนี้มีการเรียกประชุมหัวหน้าพนักงานในคดีนี้ทั้ง 2 ส่วน คือ ส่วนของความผิดฐานฮั้วประมูล และฉ้อโกง
โดยเบื้องต้นในส่วนความผิดฐานฮั้วประมูล ที่กำหนดกรอบระยะเวลาในการสรุปสำนวนคดีภายในสัปดาห์นี้ ยังไม่สามารถดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับบุคคลใดได้ เนื่องจากต้องรอเอกสารหลักฐานอีก 2 ส่วน ซึ่งส่วนแรกเป็นหนังสือสัญญาโครงการดังกล่าว จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ยังไม่ได้จัดส่งมาให้ และส่วนที่สองเป็นเอกสารสำคัญจากสำนักนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ทั้งสองส่วนถือเป็นหลักฐานสำคัญในการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง จึงจำเป็นต้องขยายกรอบระยะเวลาในการสรุปสำนวนในความผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูล ออกไปอีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อให้หลักฐานทุกอย่างครบถ้วน และเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
โดยเบื้องต้นในส่วนความผิดฐานฮั้วประมูล ที่กำหนดกรอบระยะเวลาในการสรุปสำนวนคดีภายในสัปดาห์นี้ ยังไม่สามารถดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับบุคคลใดได้ เนื่องจากต้องรอเอกสารหลักฐานอีก 2 ส่วน ซึ่งส่วนแรกเป็นหนังสือสัญญาโครงการดังกล่าว จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ยังไม่ได้จัดส่งมาให้ และส่วนที่สองเป็นเอกสารสำคัญจากสำนักนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ทั้งสองส่วนถือเป็นหลักฐานสำคัญในการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง จึงจำเป็นต้องขยายกรอบระยะเวลาในการสรุปสำนวนในความผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูล ออกไปอีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อให้หลักฐานทุกอย่างครบถ้วน และเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย