“คำรณวิทย์” ประชุมแบ่งงานรอง ผบช.น.และ บก.น.1-9, ผบก.สส.บช.น., ผบก.อคฝ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้ารับตำแหน่งงานใหม่หลังจากมีการแต่งตั้งโยกย้ายประจำปี โวสถิติคดีอาชญากรรม 2 เดือนลดลง 50 เปอร์เซ็นต์ จี้ ตร.เร่งส่างคดีค้างเก่า
วันนี้ (1 ต.ค.) เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมปารุสกวัน 2 กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.เรียกประชุมแบ่งงานใหม่ ระดับรอง ผบช.น., ผบก.น.1-9, ผบก.สส.บช.น., ผบก.อคฝ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้ารับตำแหน่งงานใหม่หลังจากมีการแต่งตั้งโยกย้ายประจำปี
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวในที่ประชุมว่า คดีอาชญากรรมเกี่ยวกับชีวิตและทรัพย์สินมีสถิติการก่อเหตุลดลงมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา แต่ยังมีคดีค้างเก่าที่ยังเหลือกว่า 5 หมื่นคดีที่ต้องดำเนินการติดตามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาก็สามารถจับกุมได้ถีง 613 คดี ทั้งนี้ หากปราบปรามอย่างจริงจังเชื่อว่าสามารถทำให้คดีเกี่ยวกับประทุษร้ายต่อชีวิตและทรัพย์สินลดจำนวนลงได้มาก
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับ ผบก.น.1-9 ต้องลงไปดูแลสถานีตำรวจของท้องที่รับผิดชอบของตนเอง ควบคุมลูกน้องให้ทำงานเพื่อประชาชนอย่างเต็มความสามารถ นอกจากนี้ ผู้บังคับบัญชาหากเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคนไหนไม่รับผิดชอบ ขอให้แจ้งเข้ามาเพื่อจะพิจารณาปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม เพราะต้องการคนที่ทำงานเพื่อประชาชนจริงๆ
“ส่วนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมใน กทม.ได้มอบหมายให้รอง ผบช.น.ทุกนายช่วยกันดูแลในจุดที่มีน้ำท่วมขัง โดยประสานกับกรมราชทัณฑ์เพื่อนำผู้ต้องขังมาช่วยขุดลอกท่อระบายน้ำร่วมกับตำรวจ ซึ่งตำรวจมีหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกในการจราจร อย่าทำให้การจราจรติดขัด ทั้งนี้ ผกก.ของท้องที่ต้องลงมาดูแลด้วยตนเอง หากไปดูแล้วจะต้องแจ้งทางวิทยุ เพื่อมาประกอบในการพิจารณาการทำงาน ซึ่งถือว่า ผกก.เป็นคนสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่” ผบช.น.กล่าว
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 11 ต.ค. 2555 ที่อิมแพค เมืองทองธานี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาเป็นประธานการเปิดงาน โดยมีการนำผู้จัดการบริษัทรักษาความปลอดภัยใน กทม.ประมาณ 2,000 บริษัท และพนักงานรักษาความปลอดภัยประมาณอีก 1 หมื่นคนใน กทม. ซึ่งใน กทม.มีพนักงานรักษาความปลอดภัยทั้งหมดประมาณ 4-5 แสนคน มาเข้าร่วมประชุมทำความเข้าใจการทำงาน นอกจากนี้ ขอให้ทาง 191 หรือ บก.สปพ. ที่จัดโครงการแท็กซี่จิตอาสา ขอให้ดำเนินโครงการนี้ต่อไป เพราะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ในการสืบสวนจับกุมคนร้าย รวมทั้งหากดึงพนักงานรักษาความปลอดภัยมาช่วยงานก็จะได้เกิดประโยชน์อย่างมาก