กองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลกวาดล้างอาวุธปืน-ยาเสพติดทั่วพื้นที่ กทม. ตามนโยบาย สตช.ในระหว่างวันที่ 22-26 มิ.ย.ที่ผ่านมา สามารถจับกุมคดีควสามผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน 234 ราย และคดียาเสพติด 286 ราย ด้าน รรท.ผบช.น.ยังไม่พอใจผลการจับกุม และจะคาดโทษ ผกก.ที่ยังไม่มีผลงาน และจะมีผลโยกย้ายแต่งตั้งอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในพื้นที่ บก.น.7
วันนี้ (27 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ พล.ต.ต.มานิตย์ วงศ์สมบูรณ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย ผบก.น.1-9 ร่วมแถลงผลการดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกประเภท โดยเน้นจับกุมคดีความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด และความผิดเกี่ยวกับคดียาเสพติด ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดอาชญากรรมประเภทต่างๆ ในช่วงระหว่างวันที่ 22-26 มิ.ย. 2555
ทั้งนี้ ตามนโยบาย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.ได้สั่งการกำชับให้ทุกหน่วยเพิ่มมาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกันปราบปรามและควบคุมสถานการณ์อาชญากรรมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนก่อเหตุประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของประชาชน ประกอบกับในเดือน มิ.ย. 2555 เป็นช่วงเทศกาลฟุตบอลยูโร 2012 อาจทำให้เกิดการก่อเหตุได้ ซึ่งผลการระดมสามารถจับกุมคดีความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน ทั้งหมด 234 ราย คดียาเสพติด 286 ราย คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ 8 ราย รวมทั้งหมด 528 ราย
พล.ต.ต.คำรณวิทย์เปิดเผยว่า ผลการดำเนินการในระหว่างวันที่ 22-26 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้นยังไม่พอใจมากนัก ซึ่งบาง สน.มีผลการจับกุมผู้กระทำผิดได้ไม่เท่าที่ควรก็จะมีการบันทึกเป็นรายงานไว้ จะมีผลต่อการแต่งตั้งแน่นอน เพราะถือว่าไม่ตอบสนองนโยบายและจะมีข้ออ้างไม่ได้
พล.ต.ต.คำรณวิทย์ยังได้เป็นประธานมอบนโยบายการทำงาน เพื่อวางแผนมอบงานในการทำหน้าที่ของตำรวจนครบาล
พล.ต.ต.คำรณวิทย์เปิดเผยก่อนเข้าร่วมประชุมว่า เนื่องจากแต่เดิมตนได้มารักษาราชการแทน ผบช.น.เป็นเวลา 30 วัน จึงเรียกประชุมเพื่อทำความเข้าใจเร่งรัดในการทำงาน แต่เมื่อมีนโยบายคำสั่งปราบปรามผู้กระทำผิดอาชญากรรมประเภทต่างๆ ออกมา ผกก.ทุกสถานีตำรวจจะเป็นตัวจักรสำคัญในการเดินหน้า ถ้าหาก ผกก.ไม่ทำงานเท่าที่ควร ประชาชนก็จะเดือดร้อน ดังนั้น จึงมีการเรียกประชุมเพื่อทำความเข้าใจกันอีกที
พล.ต.ต.คำรณวิทย์กล่าวว่า ต่อไปนี้ผู้ที่ดำรงตำแหน่ง ผกก.ทุกสถานีตำรวจต้องทำงานให้เต็มที่ หากจะยังอยากอยู่โรงพักที่มีพื้นที่ประชาชนมาก แต่ขีดความสามารถยังไม่ถึงก็ต้องมีการบันทึกเป็นรายงานไว้ ทั้งนี้ การแถลงจับกุมในช่วงเช้าที่ผ่านมามีบางโรงพักมีผลการจับกุมไม่เป็นที่น่าพอใจ ซึ่งหากมีการแต่งตั้งจะเอาบันทึกรายงานไปพิจารณาว่ามีผลการทำงานเช่นไร
พล.ต.ต.คำรณวิทย์กล่าวอีกว่า คดีที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ที่ยิงกันทั่วไป ซึ่ง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.ได้ลงมาดูด้วยตนเอง รวมทั้งมีรถเอกซเรย์เคลื่อนที่มาช่วยในการปฏิบัติงานด้วย แต่ถ้า ผกก.ในพื้นที่รับผิดชอบทำงานไม่เวิร์ก และประชาชนในพื้นที่จะอยู่ได้อย่างไร ถ้าความสามารถไม่ถึงก็พร้อมมีการปรับเปลี่ยนทันที ซึ่งตนไม่มีต้นทุนอะไร และผู้บังคับบัญชาพิจารณาให้มาอยู่ที่นี้ ตนจะทำเพื่อประชาชนเท่านั้น โดยจะมีการตรวจสอบการทำงานตั้งแต่ระดับ ผกก.ลงไปในทุกสถานีตำรวจ พร้อมกับให้รายงายกลับขึ้นมา
พล.ต.ต.คำรณวิทย์กล่าวว่า โดยเดือนหน้า (ก.ค.) จะมีการระดมกวาดล้างอีกรอบ และถ้า สน.ไหนไม่มีผลการดำเนินงานจับกุมที่ดีขึ้นอาจมีผลกระทบแน่ ซึ่งมีที่ บก.น.7 อยู่หลายโรงพักที่ผลงานยังไม่เป็นที่น่าพอใจมากนัก