xs
xsm
sm
md
lg

ดับฝัน2ล้านล้านบาทของนางสาวลูกหนึ่ง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

คณะรัฐมนตรีสัญจรไปประชุมที่โรงแรมรอยัล คลิฟ พัทยา เมื่อวันอังคารที่ 19 มิถุนายน 2555 โรงแรมเดียวกับปฏิบัติการฉีกหน้าประเทศไทย ของพลพรรคเสื้อแดง นำโดย “อริสมันต์” สมัยรัฐบาล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”

กำหนดให้การท่องเที่ยวถือเป็น “นโยบายหลัก” ของรัฐบาล

นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตั้งเป้าให้ปี 2558 ประเดิม “ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” การท่องเที่ยวต้องปั๊มเม็ดเงินเข้าประเทศ 2 ล้านล้านบาท

สิ่งที่รัฐบาลเป็นห่วง และน่าจะเป็นอุปสรรค ที่จะมา “ขัดขา” 2 ล้านล้านบาท จนหน้าคะมำคว่ำหงาย ได้แก่.....

ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดขอบโดยตรงคือ “ตำรวจ”

มีตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจท้องที่ เป็นกำลังหลัก

“ยิ่งลักษณ์” จึงมอบให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รับภาระนี้ไป

ครม.ประชุมยังไม่สะเด็ดน้ำดีนัก พอวันรุ่งชึ้น พุธที่ 20 มิถุนายน 2555 เวลา 2 ทุ่ม ก็เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่จังหวัดภูเก็ต

เป็นคดีอุกฉกรรจ์ชิงทรัพย์และฆ่าเจ้าทรัพย์ตาย

ถ้าเจ้าทรัพย์เป็นคนไทย ก็นับว่าหนักหนาสาหัสแล้ว แต่นี่เป็นนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย เป็นสตรีสูงอายุ

และที่สำคัญอย่างยิ่ง เธอเป็นผู้บริหารธุรกิจท่องเที่ยวที่เมืองเพิร์ธ ออสเตรเลีย นำคณะซึ่งเป็นผู้บริหารสาขาของบริษัทอีก 10 แห่ง มาดูสถานที่และรวบรวมข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในภูเก็ต เพื่อเอาไปโปรโมตนำลูกค้ามาเมืองไทย

เธอกับเพื่อนหญิงอีกคน กลับจากรับประทานอาหารค่ำ และเดินกลับที่พัก โรงแรมกะตะธานี ภูเก็ต บีช รีสอร์ท ถนนกะตะน้อย ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต

วายร้ายไทยแลนด์ 2 ตัว ใช้มอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะ คนซ้อนท้ายลงไปกระชากกระเป๋าสะพาย เธอยื้อแย่งกระเป๋า มันใช้มีดสปาร์ต้าแทงหน้าอก คมมีดทะลวงตัดขั้วหัวใจ ถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา

เพื่อนหญิงอีกคน ได้รับบาดเจ็บที่แขน

แน่นอนที่สุด ใช่แต่การท่องเที่ยวจะพังพินาศ เฉพาะนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเท่านั้น แต่ข่าวนี้มันกระจายไปทุกประเทศทั่วโลก

ถ้านายกฯ ยิ่งลักษณ์ หรือ นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ คิดว่าจะกล้ามาเที่ยวเมืองไทยหรือไม่

ตำรวจเริ่มเจอทางตัน เพราะภาพที่ได้จากวงจรปิดไม่ชัดเจน ถ้าจับคนร้ายไม่ได้ นั่นหมายถึงความพินาศด้านการท่องเที่ยว ยิ่งทับถมทวีคูณ

ตำรวจต้องหาทางออกด้วยการตั้งสินบนนำจับ 2 คนร้าย บวกกับเงินของโรงแรมกะตะธานี รวม 3 แสนบาท

เพียง 5 วันต่อมา ตำรวจสืบสวนภาค 8 และตำรวจสืบสวนภูเก็ต ก็ตามรวบวายร้ายทั้ง 2 ตัว ได้ที่สมุทรสาคร และชุมพร

ที่จับได้เพราะ “พลเมืองดี” เห็นตำรวจกำลังมะงุมมะงาหรา ใกล้จะเข้าตาจน เเลยมาบอกข้อมูลว่า 2 คนร้ายนั้นเป็นพวกค้ายาเสพติดในพื้นที่ แต่ไม่ใช่คนในพื้นที่

สินบน 3 แสนบาท ต้องให้พลเมืองดีคนนี้ ตำรวจอย่าไปขอเอี่ยวด้วย

ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก

รถโดยสารไม่ประจำทาง สุราษฎร์ธานี 111 ทัวร์ รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากสุราษฎฺร์ฯ เข้ากรุงเทพ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2555

มาถึงสมุทรสาคร รถทัวร์เริ่มวาดลวดลาย ขนกระเป๋านักท่องเที่ยวมากองหน้าร้านกาแฟในปั๊มน้ำมัน แล้วขับรถออกไปอ้างเอาขยะไปทิ้ง

กลับมาที่ปั๊มอีกครั้ง นักท่องเที่ยวชายชาวอังกฤษ โวยวายว่ากระเป๋าของเขาถูกรื้อค้น มีทรัพย์สินหายด้วย

กระเป๋ารถวัย 17 ชักมีดปลายแหลมแทงท้องนักท่องเที่ยว แล้วให้โชเฟอร์ขับรถหนี ตำรวจตามจับได้ทันควัน ทั้งรถทั้งคนขับ และกระเป๋ารถอีก 2 คน

แม้จะจับคนร้ายได้ทั้งสองรา แต่ความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เรื่องความปลอดภัยของเขา กว่าจะจางหายก็ต้องใช้เวลายาวนาน ไม่เหมือนภัยธรรมชาติ และอาจจะนานกว่า 3 ปี

ออสเตรเลียตาย อังกฤษเจ็บ

ฝันหวาน 2 ล้านล้านบาท ของนางสาวลูกหนึ่ง......ดับสนิทแน่นอน.
กำลังโหลดความคิดเห็น