ระทึก! อุบัติเหตุรถเมล์ ปอ.504 รังสิต-พระราม 3 พลิกคว่ำ บนถนนวิภาวดีขาเข้า ผู้โดยสารเจ็บระนาว 32 ราย อาการสาหัสนอนไอ.ซี.ยู.1 ราย ด้านตำรวจสอบปากคำคนขับรถเมล์ และผู้โดยสาร ก่อนแจ้งข้อหาขับรถประมาท ทำให้มีผู้บาดเจ็บ
วันนี้ (24 มิ.ย.) เมื่อเวลา 15.40 น. พ.ต.ท. ชัยวัฒน์ อินเทศ พนักงานสอบสวน (สบ2) สน.วิภาวดี รับแจ้งรถโดยสารประจำทางประสบเหตุพลิกคว่ำ มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดบนถนนวิภาวดี ฝั่งขาเข้า เลนคู่ขนาน หน้าบริษัท ยาคูลท์ ประเทศไทย จำกัด แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม.จึงประสานเจ้าหน้าที่สายตรวจ ขสมก.และเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางด่วน ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถร่วมบริการ ขสมก.ปรับอากาศ สาย ปอ.504 ทะเบียน 14-1432 กทม.พลิกตะแคงขวา ขวางการจราจรทุกช่องทาง โดยมีผู้โดยสารทั้งชาย-หญิงหลายราย พยายามตะเกียกตะกาย ออกจากรถปรับอากาศคันเกิดเหตุ ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัย รวมทั้งพลเมืองดีในละแวกดังกล่าว ได้นำตัวผู้บาดเจ็บส่ง รพ.วิภาวดี และ รพ.เปาโล ย่านสะพานควาย โดยส่ง รพ.วิภาวดี จำนวน 18 ราย พบว่า มีอาการสาหัส ต้องรักษาตัวอยู่ในห้องไอ.ซี.ยู.1 ราย ที่เหลือบาดเจ็บไม่มากนัก ส่วนที่ รพ.เปาโล สะพานควาย มีทั้งหมด 14 ราย รวมผู้บาดเจ็บทั้งหมด 32 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลฟกช้ำ แผลถลอก ตามแขนขา และแผลแตกที่ศีรษะ และผู้บาดเจ็บต่างตกใจและร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ พบ นางศรีอรุณ ลาดโพธิ์ อายุ 44 ปี กระเป๋ารถเมล์ ปอ.สาย 504 ยืนรอให้การกับตำรวจ ด้วยสีหน้าตื่นตกใจ ส่วนคนขับรถ ปอ.สาย 504 คือ นาย นฤชา สิทธิเอี่ยมศักดิ์ อายุ 57 ปี หลังเกิดเหตุมีอาการตกใจและได้หลบหนีไป ทำให้ นางศรีอรุณ ต้องโทรศัพท์เรียกกลับมา ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะคุมตัวไปสอบสวน
นางศรีอรุณ เล่าว่า รถคันเกิดเหตุ เป็นร่วมบริการปรับอากาศวิ่งระหว่างรังสิต-พระราม 3 โดยก่อนเกิดเหตุวิ่งออกจากรังสิต มุ่งหน้าไปพระราม 3 เมื่อถึงจุดเหตุหน้าบริษัท ยาคูลท์ รถเมล์ก็วิ่งมาด้วยความเร็วปกติ และมีผู้โดยสารเกือบเต็มคันรถ กระทั่งเห็นรถเก๋งจอดกินข้าวอยู่ริมถนนบนไหล่ทาง และท้ายรถเก๋งโผล่ออกมาที่ช่องทางการจราจร ทำให้คนขับรีบหักพวงมาลัยหลบอย่างกะทันหัน เป็นเหตุให้รถเสียหลักพลิกตะแคง ตนและผู้โดยสารทั้งหมด ต่างกรีดร้อง ด้วยความหวาดกลัว ซึ่งตอนนี้ยังรู้สึกตกใจกลัวอยู่ ใจสั่นไปอยู่ตาตุ่ม แข้งขาอ่อนไปหมด
ด้าน นายนฤชา ให้การว่า ขณะขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้มีรถเก๋งขับปาดหน้ามาจากช่องเลนด่วน ทำให้ตนตกใจจึงรีบหักหลบ จนเกิดอุบัตเหตุดังกล่าวขึ้น อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุด้วยความตกใจกลัว ทำอะไรไม่ถูก หนีออกมาตั้งสติ กระทั่งกระเป๋ารถเมล์โทร.ตาม จึงกลับมาพบและให้การกับเจ้าหน้าที่ยังจุดเกิดเหตุ
ขณะที่ พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ กล่าวว่า จากการสอบสวนคนขับรถประจำทางและกระเป๋ารถคันเกิดเหตุ เบื้องต้นยังให้การค่อนข้างไม่ตรงกัน ซึ่งจะได้สอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมถึงผู้โดยสาร ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ก่อนจะมีการแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ โดยรับทราบว่า มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 32 ราย และมี 1 ราย นอนรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอ.ซี.ยู.โรงพยาบาลวิภาวดี ซึ่งจะได้ตรวจสอบอีกครั้งว่าบาดเจ็บมากน้อยขนาดไหน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากอุบัติเหตุดังกล่าว ส่งผลให้การจราจรถนนวิภาวดี ฝั่งขาเข้า ทั้งช่องเลนด่วนและคู่ขนานติดขัดอย่างหนัก เนื่องจากต้องปิดการจราจรเลนคู่ขนาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบที่เกิดเหตุ และต้องทำการเคลื่อนย้ายรถที่เกิดเหตุให้พ้นการกีดขวางการจราจร โดยนำรถยกขนาดใหญ่จำนวน 3 คัน มาทำการเคลื่อนย้ายใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถเคลื่อนย้ายสำเร็จ ก่อนจะทำความสะอาดบนพื้นผิวถนน ก่อนจะเปิดการจราจรตามปกติ