รรท.ผบช.ภ.1 แจงคดีจับฝาแฝดผิดตัว สั่งแจ้งข้อหาแจ้งความเท็จกับพี่ชายฝาแฝด พร้อมแจ้งหมิ่นประมาทกับมารดาแฝดทั้งสอง กล่าวหา ตร.เรียกรับสินบน 5 แสน ระบุไม่เป็นความจริง พร้อมแนะให้ร้องรื้อคดีกับทางศาลอีกครั้งแทน
วันนี้ (10 พ.ค.) เวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.ภ.1 แถลงข่าวกรณีที่นางบุญเกิด อุ่นวงษ์ อายุ 55 ปี และนายเอนก หรือบี อุ่นวงษ์ อายุ 30 ปี มารดาและพี่ชายนายอานนท์ หรือบอย อุ่นวงษ์ ผู้ต้องหาฝาแฝดที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จังหวัดปทุมธานี จับส่งฟ้องศาลผิดตัวในข้อหาทำร้ายร่างกายและศาลตัดสินจำคุก 4 ปี เมื่อปี 2553 ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.คำรณวิทย์เปิดเผยว่า จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ผู้ต้องหาได้ให้การว่า ตนคือนายเอนก ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวจริง แต่ไม่ได้เป็นผู้ลงมือทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย และกรณีที่หาว่าตำรวจเรียกเงินจากนางบุญเกิดจำนวน 500,000 บาท เป็นค่าดำเนินคดีนั้นก็ไม่เป็นความจริง อีกทั้งยังแนะนำให้นางบุญเกิดใช้ช่องทางตาม พ.ร.บ.ขอรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่ที่ศาลชั้นต้นธัญญบุรีอีกครั้ง
ด้าน นางพิมพ์ ศรนุวัต มารดาของนายอมรเทพ ผู้เสียหาย กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่ลูกชายต้องมาเป็นผู้พิการเช่นนี้ และไม่ได้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย เนื่องจากเห็นว่าทางครอบครัวของผู้ต้องหามีฐานะทางการเงินไม่ค่อยดี จึงตัดสินใจไม่ฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น ขอเพียงให้ผู้กระทำผิดรับโทษตามกฎหมายเท่านั้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามนายอมรเทพว่า ช่วยเล่าเหตุการณ์วันเกิดเหตุเป็นอย่างไรบ้าง นายอมรเทพเล่าว่า กลุ่มตนได้ไปมีเรื่องกับกลุ่มของนายเอนก และตนเองเข้าไปเคลียร์จนถูกทำร้ายบริเวณซอย 6/1 ในหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี จากนั้นไม่นานกลุ่มนายเอนกประมาณ 7-8 คนยกพวกเข้ามารุมฟันหลายแห่งจนตนเองได้รับบาดเจ็บรักษาตัวนานอยู่ประมาณ 2 อาทิตย์ เนื่องจากเหตุการณ์รวดเร็วและชุลมุนมากทำให้ไม่สามารถจดจำได้ว่าเป็นนายเอนก หรืออานนท์ เพราะสองคนเป็นฝาแฝด รูปพรรณสันฐานคล้ายกันมาก แม้แต่ตำหนิแผลเป็นที่ศอกทางด้านขวาก็เหมือนกัน ซึ่งตนรู้เพียงทั้งนายเอนกและอานนท์อยู่ในกลุ่มดังกล่าว แต่เพื่อนตนเล่าให้ฟังว่านายอเนกเป็นคนลงมือฟัน เพราะเพื่อนคนดังกล่าวอยู่ข้างบ้านนายอเนกและรู้จักกับนายเอนกด้วย กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ชี้ภาพคนร้ายตนก็ชี้ว่าเป็นนายอานนท์เพราะใบหน้าเป็นคนคนเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้แจ้งความหมิ่นประมาทต่อนางบุญเกิด มารดาผู้ต้องหา ส่วนนายเอนกผู้เป็นพี่ชายในข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน และพนักงานสอบสวนจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป