ฉะเชิงเทรา - เผยศูนย์นิสสันแปดริ้ว ถูกโจรกรรมฉกทรัพย์ 4 ครั้ง แต่คดีไม่คืบหน้า ขณะตำรวจท้องที่เต้น เร่งควานหาหลักฐานรอบด้าน หวังหาเบาะแสหิ้วตัว 3 ไอ้โม่ง ด้าน รองผบช.ภาค 2 ชี้ อาจเป็นคนที่เคยทำงานที่นี่มาก่อน
วันนี้ (10 พ.ค.) น.ส.นันทนา สุขสำราญ อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่แคชเชียร์ ศูนย์บริการโชว์รูมรถยนต์นิสสัน ฉะเชิงเทรา กล่าวต่อหน้า พล.ต.ต.นิวัตน์ รัตนาธรรมวัฒน์ รองผู้บัญชาการภาค 2 ขณะลงมาดูในที่เกิดเหตุ 3 โจรปล้นรถในโชว์รูม ว่า ที่ผ่านมา ศูนย์บริการจำหน่ายรถยนต์แห่งนี้ เคยถูกโจรบุกเข้ามาโจรกรรมทรัพย์สินหายไปบ่อยครั้งมาก
น.ส.นันทนา กล่าวต่อไปว่า ในครั้งแรกๆ นั้น เป็นเพียงการโจรกรรมสิ่งของเครื่องใช้ไปเล็กๆ น้อยๆ ในสำนักงาน เช่น กล้องถ่ายรูป และเครื่องมือช่าง โดยได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ไว้ทุกครั้ง แต่คดีดังกล่าวไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ก่อนหน้าศูนย์บริการแห่งนี้ ยังเคยถูกคนร้ายเข้ามาโจรกรรมรถยนต์เก่ามือสองที่ทางศูนย์บริการรับซื้อไว้จากลูกค้าหายไปจากที่บริเวณด้านหลังของโชว์รูมมาก่อนแล้วรวม 3 ครั้ง และตำรวจก็ไม่เคยจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้เลย จนมาในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ที่ถูกโจรบุกเข้ามาปล้นเอาอุปกรณ์สำนักงาน และรถยนต์ใหม่ป้ายแดง จากโรงงานไป
ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.นิวัตน์ ได้รับปากที่จะติดตามคดีเก่าๆ ที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้าให้ พร้อมกับได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา รื้อคดีที่เคยเกิดขึ้นกับศูนย์บริการรถยนต์นิสสัน ฉะเชิงเทรา หรือคดีที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทุกคดีขึ้นมาทำใหม่ เพื่อเป็นการหาเบาะแสคนร้ายที่อาจจะเป็นกลุ่มเดียวกัน พร้อมขู่ว่า หากคดียังไม่มีความคืบหน้าอีกจะสั่งขังพนักงานสอบสวนทีเกี่ยวข้องทั้งหมด
สำหรับคดีที่เกิดขึ้น เชื่อว่า คนร้ายมีการเตรียมการวางแผนปล้นชิงรถเอาไว้ก่อนล่วงหน้ามาเป็นอย่างดี และรู้ถึงความเคลื่อนไหวภายในศูนย์บริการแห่งนี้ทั้งหมด ทั้งเวลาการส่งมอบรถยนต์ ที่ทางโชว์รูมสั่งรถให้มาส่งจากโรงงาน การรู้ตำแหน่งที่ตั้งของกล่องบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด อีกทั้งยังเจาะจงที่จะมาเอารถยนต์กระบะปิกอัพที่เคยจอดอยู่ด้านบนโชว์รูมอีกด้วย
พล.ต.ต.นิวัตน์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ยังทราบอีกด้วยว่า เมื่อมีรถใหม่เข้ามาส่งในเวลากลางคืน จะมี รปภ.เป็นผู้เซ็นชื่อรับรถ และจะเป็นผู้เก็บกุญแจรถทั้งหมดที่นำมาส่งมอบไว้เอง นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมคีมติดมือมาไว้สำหรับตัดโซ่กุญแจประตูชั้นนอกของสำนักงานอีกด้วย ที่สำคัญ รู้แม้กระทั่งว่า มีกล้องวงจรปิด จึงเชื่อว่า กลุ่มคนร้ายที่ลงมือไม่ใช่โจรมาจากที่อื่นอย่างแน่นอน หรืออาจจะเป็นคนที่เคยทำงานที่นี่มาก่อน
