ตำรวจประชุมแนวทางสืบสวนหาที่มาที่ไปของการพบหัวกะโหลก 5 หัวในพื้นที่ บช.ภ.1 พบมีเศษหัวกะโหลกอีกชิ้นไม่ตรงกับกะโหลกที่พบทั้ง 5 หัว ซึ่งแสดงให้เห็นว่า อาจมีหัวกะโหลกทั้งหมดกว่า 10 หัว ชี้ น่าจะเป็นการลักลอบนำหัวกะโหลกไปเพื่อดำเนินการทางไสยศาสตร์ แต่ตำรวจต้องทำคดีให้ถึงที่สุด เพราะเชื่อญาติผู้ตายไม่ต้องการให้เกิดขึ้น
วันนี้ (26 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผช.ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.คเชนทร์ คชพลายุกต์ รอง จตร.(สบ 7) ปฏิบัติราชการรอง ผบช.ภ. 1 พล.ต.ต.สมบูรณ์ ตันตระกูล ผบก.นต. พล.ต.ต.อภิรัตน์ ปรักกมะกุล ผบก.พฐก. พล.ต.ต.ปรีดี พงศ์เศรษฐสันต์ รอง ผบก.ศพฐ. 1 และเจ้าหน้าที่ นต. และ พฐก. ที่ห้องประชุมสถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีพบกะโหลกศีรษะ 5 กะโหลก และชิ้นส่วนกระดูกจำนวนหนึ่งในถุงทราย บริเวณใต้สะพานคลอง 13 จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชม.
พล.ต.ท.จรัมพรกล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ เป็นการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนและพิสูจน์หลักฐานคดีพบหัวกะโหลกทั้ง 5 หัว หลังจากได้ตรวจสอบเศษหัวกะโหลกนั้นพบเศษเบ้าตาที่ไม่ตรงกับจำนวน 5 หัว แสดงว่ามีหัวกะโหลกอีก 1 หัว ส่วนเศษกะโหลกอื่นๆ หากตรวจสอบแล้ว อาจมีมากกว่า 10 หัวเลย โดยทั้งหมดจะสกัดดีเอนเอไว้ ส่วนแผลผ่าตัดกะโหลกจำนวน 2 หัวนั้น มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนประสาน รพ.ต่างๆ ละแวกใกล้เคียงว่าเคยทำการรักษาหรือชันสูตรศพที่เคยมีแผลที่ศีรษะหรือไม่ สำหรับร่องรอยการตัดกะโหลก เชื่อว่ากระทำโดยผู้มีความชำนาญ คือ จดแล้วตัดเลยด้วยเครื่องเจีย หรือลูกหมู
พล.ต.ท.จรัมพรกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังมีดินที่ติดมากับหัวกะโหลก ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เก็บตัวอย่างดินในจุดที่เป็นแหล่งฝังศพ ซึ่งคาดว่าเป็นป่าช้าย่านหนองแค จ.สระบุรี โดยเบื้องต้นเชื่อว่ากะโหลกทั้ง 5 หัวมาจากป่าช้าเดียวกัน
เมื่อถามว่า หากหัวกะโหลกดังกล่าวมาจากป่าช้า แสดงว่ามีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการล้างป่าช้าเป็นคนนำกะโหลกไปใช่หรือไม่ พล.ต.ท.จรัมพรกล่าวว่า โดยกระบวนการแล้วการล้างป่าช้ามีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเกี่ยวข้องและดำเนินการเป็นขั้นตอนและมีพิธีการ แต่เป็นไปได้ว่าการควบคุมไม่ดีพอ ทำให้ลักลอบนำออกมาได้
“พยานหลักฐานต่างๆ บ่งชี้ได้ว่า ลักลอบนำหัวกะโหลกไปเพื่อดำเนินการทางไสยศาสตร์ แม้จะเป็นศาสตร์หนึ่งที่เป็นความเชื่อส่วนบุคคมาแต่ดั้งเดิม แต่ตำรวจก็ปล่อยวางไม่ทำคดีไม่ได้ เพราะเป็นการขโมยหัวกะโหลก ซึ่งแน่นอนว่าญาติของผู้ตายคงไม่ต้องการให้เกิดขึ้น ซึ่งกรณีนี้จะเป็นเรื่องที่สังคมไทยเริ่มเรียนรู้และกำหนดกรอบของสังคมร่วมกัน และประชาชนก็ต้องการตรงนี้ “ พล.ต.ท.จรัมพรกล่าว