ตร.เผยหนุ่มไต้หวันผู้ต้องหาซุกศพทารกทำกุมาร ร้องถูก “อาเฉิน” โทร.ข่มขู่ ภายหลังซัดทอดร่วมขบวนการ ขณะที่ผลการตรวจพิสูจน์ซากทารกอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นทารกไทยหรือเขมร ขณะที่ ตร.โรงพักพลับพลาไชย 2 โล่งไร้ผีเด็กร้องป่วนหลังทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้
วันนี้ (22 พ.ค.) เวลา 12.00 น. พ.ต.ท.(หญิง) จิตติมา ธงไชย พงส. (สบ 3) สน.พลับพลาไชย 2 กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ กก.ดส. สามารถจับกุมนายโจว ฮอง ฮุน อายุ 28 ปี ชาวไต้หวัน พร้อมของกลางศพทารกปลุกเสก ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านเยาวราช ว่า ได้ประสานไปทางเจ้าหน้าที่ กก.ดส.เพื่อให้เร่งติดตามตัวนายเฉิน เหวิน อี้ อายุ 32 ปี ชาวไต้หวัน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีศพเด็ก หลังจากนายโจว ผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ก่อนหน้านี้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่านายเฉินมีส่วนรู้เห็น ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาและได้ปล่อยตัวกลับไป นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งนายโจวว่าได้ถูกนายเฉินโทรศัพท์มาข่มขู่ภายหลังจากที่ถูกซัดทอดว่าเป็นผู้ร่วมในขบวนการดังกล่าวด้วย ซึ่งรายละเอียดยังไม่ทราบเป็นอย่างไรต้องรอตรวจสอบต่อไป
พ.ต.ท.(หญิง) จิตติมา กล่าวว่า ส่วนผลการตรวจพิสูจน์ของซากทารกทั้งหมดนั้น ยังต้องรอผลการตรวจอีกสักระยะ เพราะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัด อีกทั้งทางพนักงานสอบสวนได้ขอให้ทางแพทย์ตรวจสอบในส่วนของดีเอ็นเอเพิ่มเติมว่าเป็นทารกคนไทย หรือเขมร
มีรายงานว่า หลังจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พลับพลาไชย 2 ได้มีการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ในช่วงเช้าของวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมาแล้วนั้น เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้เจอเหตุการณ์ลี้ลับเกิดขึ้นอีกแต่อย่างใด
ภายในวันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.ท.หญิง ศิริกุล เจียรนัยขจร พยาบาล (สบ 3 ) รพ.ตำรวจ เป็นรองโฆษก รพ.ตำรวจ เปิดเผยผลการชันสูตรซากศพเด็กทารกที่ถูกนำมาปลุกเสกเป็นกุมารทองว่า แพทย์นิติเวช 3รายได้ร่วมกันชันสูตรประกอบด้วย พ.ต.อ.นพ.ภวัต ประทีปวิศรุต พ.ต.ท.ปกรณ์ วะศินรัตน์ แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจและ รศ.พญ. สมบูรณ์ ธรรมเถกิงกิจ เลขาธิการสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย
ผลการตรวจพบว่าศพที่ 1 เป็นเพศชาย อายุ ครรภ์ 5-6เดือน สูง27.8ซม. ศพที่ 2 เพศชาย อายุครรภ์ประมาณ 7-8 เดือน สู 35 ซม. ศพที่ 3 ไม่สามารถตรวจสอบเพศได้ อายุครรภ์ 5 เดือน สูง 25 ซม. ศพที่ 4 ไม่สามารถระบุเพศได้ อายุครรภ์ 3 เดือน ศพที่ 5 เป็นเพศชาย อายุครรภ์ 5 เดือน และศพที่6 ไม่สามารถระบุเพศได้อายุครรภ์ 4-5 เดือน โดยสามารถระบุอายุครรภ์ได้จากการคำนวนส่วนสูงและน้ำหนักของซากศพ
ทั้งนี้ ศพที่ไม่สามารถระบุเพศได้ เนื่องจากศพมีลักษณะแห้งเกินไป จึงต้องตรวจดีเอนเออีกครั้ง โดยศพที่ 3-6 และศพที่ 1 เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6-12 เดือน ส่วนศพที่ 2 เสียชีวิตมาแล้ว 1-3 เดือน โดยศพที่ 3-6 เสียชีวิตก่อนคลอด ส่วนศพที่ 1-2 ไม่สามารถตรวจสอบได้ ทั้งนี้จะส่งผลการชันสูตรไปยังพนักงานสอบสวนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพนักงานสอบสวนได้นำศพเด็กทารกมายังนิติเวชเพื่อผ่าชันสูตร กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของความเชื่อต่าง ๆ ของศพเด็กที่นำมาปลุกเสกเป็นกุมารทอง เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่มีการนำซากเด็กทารกที่ถูกปลุกเสกมาชันสูตรเป็นครั้งแรก โดยศพทั้งหมดที่นำมาผ่าชันสูตรจะอยู่ด้านล่างของอาคารสถาบันนิติเวช เจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่บางรายก็บอกว่า ได้ยินเสียงเด็กร้อง แต่ไม่แน่ใจอาจเป็นการอุปาทานไปเองก็เป็นได้
