ผกก.พลับพลาไชย 2 เผยเตรียมส่งซากทารกไปพิสูจน์สภาพบุคคล ที่นิติเวช รพ.ตำรวจ พร้อมตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้ในวันพรุ่งนี้ ลือซากกุมารเฮี้ยนจริง พนักงานสอบสวนได้ยินเสียงเด็กร้องกลางดึก ยันไม่ลบหลู่ ด้านชาวบ้านแห่ดูซากกุมาร 6 ศพ ผ่านประตูกระจก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้เข้าไปดูของกลาง
วันนี้ (20 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่สน.พลับพลาไชย 2 พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ สายันประเสริฐ ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 เปิดเผยความคืบหน้ากรณีจับกุมนายโจว ฮอง ฮุน อายุ 28 ปี ชาวไต้หวัน พร้อมของกลางซากศพเด็กทารก ลักษณะปลุกเสกทำเป็นกุมารทอง ปิดทองทั่วตัวจำนวน 6 ศพ บรรจุในกล่องกระดาษ โดยสามารถจับกุมได้ภายในห้องเลขที่ 613 โรงแรมเอ็มไพร์ ถ.เยาวราช แขวงและเขตสัมพันธวงศ์ กทม. แล้วภายหลังผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว แต่ห้ามเดินทางออกนอกประเทศว่า
ในวันจันทร์ที่ 21 พ.ค. นี้จะนำซากศพทารกทั้ง 6 ซาก ส่งไปยังสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจเพื่อพิสูจน์ทราบตามคำสั่งอัยการว่า เป็นสภาพบุคคลเริ่มตั้งแต่คลอด แล้วอยู่รอดจนเป็นทารกสามารถหายใจด้วยปอดได้แล้วหรือไม่ และเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด เพราะมีอยู่จำนวน 2 ซาก ที่น่าจะเป็นสภาพบุคคลแล้ว ก่อนจะเรียกตัวผู้ถูกกล่าวหา มารับทราบข้อกล่าวหาลักลอบ ฝัง ซ่อนเร้น เคลื่อนย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการเกิดการตาย หรือเหตุแห่งการตาย มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับสองหมื่นบาท แต่หากเสียชีวิตจากการทำแท้งจะมีอายุในครรภ์ ไม่มีสถานภาพเป็นบุคคล ทางพนักงานสอบสวนจะนำมาพิจารณาในการส่งดำเนินคดีอีกครั้ง ทั้งนี้ ต้องรอผลจากการชันสูตรศพจากผู้เชี่ยวชาญของสถาบันนิติเวชเป็นหลักเสียก่อน
พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ เปิดเผยว่า จากการสอบถาม พ.ต.ท.หญิง จิตติมา ธงไชย พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.พลับพลาไชย 2 เรื่องความเฮี้ยนของวิญญาณนั้นเป็นความจริงที่ได้ยินเสียงคล้ายเด็กร้องบริเวณที่เก็บของกลาง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่ส่วนตัวตนไม่ขอลบหลู่ดีกว่า โดยช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (21 พ.ค.) ตนจะตักบาตรเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ซากทารกเหล่านั้นให้ไปเกิดใหม่ และทาง สน.จึงขอประชาสัมพันธ์ว่า ไม่อนุญาตให้ใครเข้ามากราบไหว้แต่อย่างใด เนื่องจากห้องที่เก็บนั้นเป็นห้องที่พนักงานสอบสวนใช้ในการทำงาน จึงไม่สะดวกที่จะให้ประชาชนเข้ามากราบไหว้ได้
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศหน้า สน.พลับพลาไชย 2 ว่า ภายหลังมีข่าวลือเรื่องความเฮี้ยนของทารกนั้น มีบรรดาแม่ค้าที่ขายของอยู่ใกล้กับ สน. ต่างแห่มาขอดูซากทารกน้อยกัน 6-7 ราย แต่เมื่อขอเข้าไปดูภายในสำนักงาน ปรากฎว่า ทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้เข้าไปดู จึงยืนมุงผ่านกระจกมองเข้าไปในห้องพนักงานสอบสวน ซึ่งบรรดาคอหวยทั้งหลายได้นำเลขเด็ด 613 เป็นห้องที่จับกุมผู้ต้องหาได้ พร้อมของกลาง จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับไป
ด้าน น.ส.ณัฐธิดา กาแดง อายุ 49 ปี แม่ค้าขายหัวหมูภายในตลาดเยาวราชใหม่ กล่าวว่า วันนี้ตนตั้งใจเดินทางมากับเพื่อนเพื่อจะมาขอชม และกราบไหว้ขอเลขเด็ดจากซากทารกทั้ง 6 ซาก ซึ่งตนมีความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์อยู่แล้ว จึงได้เดินทางมาดูด้วยตนเอง แต่มาถึงที่ สน.ทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้เข้าไปกราบไหว้ ตนรู้สึกเสียดายมากแต่ก็เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่าไม่สะดวกจริง
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถาม ร.ต.อ.พงษ์นริทร์ อนันตชาติ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.พลับพลาไชย 2 เปิดเผยประสบการณ์ขนหัวลุกว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.00 วันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้มาเข้าเวรต่อจาก พ.ต.ท.หญิง จิตติมา ขณะนั้น ตนกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ห้องพนักงานสอบสวน จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงคล้ายเด็กร้องเสียง “อ่อแอ่” ขึ้นมา ซึ่งขณะนั้นตนก็คิดว่าอาจจะอุปทานไปเองเพราะภายใน สน.พลับพลาไชย 2 ได้มีการเปิดโทรทัศน์ไว้อาจเป็นเสียงของละครก็เป็นไปได้ แต่พอมาทราบข่าวตอนหลังว่า มีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจึงไม่ขอลบหลู่ดีกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ด้าน พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ สายันประเสริฐ ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 กล่าวว่า ศพทารกทั้ง 6 ซาก ถูกเก็บไว้ที่บริเวณด้านหลังโต๊ะทำงานของพนักงานสอบสวนโดยบรรจุไว้ในกระเป๋าเดินทางสีดำที่ชั้นเก็บของ นอกจากนี้ ยังพบขวดน้ำแดง 2 ขวด นมเปรี้ยว จำนวน 6 กล่อง และทอฟฟี่วางอยู่โดยรอบชั้นวางดังกล่าว ซึ่งเป็นของที่ พ.ต.ท.หญิง จิตติมา ได้นำสิ่งของเหล่านี้มากราบไหว้ เพราะสงสารซากศพเหล่านี้ที่ต้องมาถูกทำพิธีกรรมดังกล่าว