“วัน อยู่บำรุง” พร้อมตัวแทนผู้ขับขี่ จยย.รับจ้างในพื้นที่ กทม.กว่า 50 คน เข้าร้อง ผบช.น.ติดตามความคืบหน้าถูกกลุ่มมาเฟียผู้มีอิทธิพลข่มขู่ รีดไถ เรียกค่าคุ้มครอง ด้าน ผบช.น.ระบุเรื่องร้องเรียนทั้ง19 เรื่อง จนท.ดำเนินการครบหมดแล้ว พร้อมกำชับทุก สน.ต้องไม่มีผู้มีอิทธิพลเข้ามารีดไถประชาชน ด้านตัวแทน จยย.รับจ้าง เผย ถูกเรียกเก็บค่าวินเดือนละ 1 พันโดยอ้างจะเก็บส่งให้ ตร. จึงอยากให้ ผบช.น.ช่วยดูแลด้วย
วันนี้ (23 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.พิสิฎฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย นายวัน อยู่บำรุง ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมรับฟังปัญหาข้อร้องเรียนจากนายเฉลิม ชั่งทองมะดัน นายกสมาคมผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทย และกลุ่มตัวแทนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างในพื้นที่ กทม.กว่า 20 เขต จำนวน 50 คน ที่ได้รับความเดือดร้อนถูกกลุ่มมาเฟียผู้มีอิทธิพลข่มขู่รีดไถเงินค่าจอดวิน จยย.
พล.ต.ท.วินัยเปิดเผยว่า การหารือกันในครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา นายเฉลิมพร้อมกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างในพื้นที่ กทม.เข้าร้องเรียน ผบช.น.กรณีถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลทั้งคนในและนอกเครื่องแบบเข้าข่มขู่เรียกรับผลประโยชน์และยังปล่อยให้มีวินจักรยานยนต์รับจ้างเถื่อน ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนมาวิ่งรับส่งผู้โดยสารแย่งกับกลุ่มวินจักรยานยนต์รับจ้างที่ถูกกฎหมาย โดยตำรวจนครบาลใช้เวลาสะสางคดีที่เกิดขึ้นทั้งหมด 19 เรื่องตามที่ได้รับร้องเรียนยังไม่เสร็จสิ้นและยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก พร้อมกับพบว่ามีการข่มขู่จากผู้มีอิทธิพลอยู่อย่างต่อเนื่อง
นายเฉลิมเดินทางมาร้องเรียนพร้อมกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยายนต์รับจ้างในพื้นที่ต่างๆ ได้พูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งคดีค้างเก่าและปัญหาที่เกิดขึ้นใหม่ในที่ประชุม โดยส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลเรียกเก็บเงินค่าจอดวินตามที่ต่างๆ และบางวินก็มีการเพิ่มจำนวนเสื้อวินมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้พวกตนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ซึ่งหลังจากที่ได้เข้าเรียกร้องกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งที่ผ่านมา ได้ถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลข่มขู่ต่างๆ เช่น มีการทำร้ายร่างกายกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง และในบางวินมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบางรายมาสั่งกับทางวินว่าห้ามเข้าร่วมกับทางสมาคมในการร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงความเดือดร้อนที่ได้รับจากกลุ่มผู้มีอิทธิพล หากใครเข้าร่วมก็ทำให้อยู่ไม่ได้ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจบางพื้นที่ยังบอกอีกว่าหากกลัวมากก็ให้ย้ายวินหนีไป ให้ไปตั้งที่อื่น
นายเฉลิมยังกล่าวอีกว่า เชื่อว่าทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล มีความตั้งใจที่จะช่วยกลุ่มของพวกตนอย่างเต็มที่ แต่หลังจากที่ได้ร้องเรียนไปครั้งแรก ปรากฏว่ามีบางวินถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลเปลี่ยนจากการเก็บส่วยรายเดือนมาเป็นเพิ่มเสื้อวินแทน ซี่งทำให้เกิดความเดือดร้อนกับกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยายนต์รับจ้างเป็นอย่างมาก และต้องมาถูกตำรวจจับเพราะเพิ่มเสื้อวิน พวกตนเคยไปร้องที่เขต เขตก็ไม่ดำเนินการใดๆ ให้ วันนี้จึงเดินทางมาร้องเรียนกับทาง บช.น.เพื่อให้ช่วยเหลือในการปราบปรามกลุ่มผุ้มีอิทธิพลเหล่านี้ด้วย
พล.ต.ท.วินัยกล่าวชี้แจงอีกว่า การร้องเรียนเมื่อครั้งที่ผ่านมา ทาง บช.น. ได้รับเรื่องร้องเรียนทั้งสิ้น 19 เรื่อง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ดำเนินการไปแล้วจนเกือบครบ ได้สั่งกำชับไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สน.ว่าจะต้องไม่มีกลุ่มผู้มีอิทธิพล หรือกลุ่มมาเฟียเข้ามารีดไถประชาชน และจะต้องไม่มีเจ้าหน้าของรัฐ ไม่ว่าจะฝ่ายไหน สีใด เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเอารัดเอาเปรียบประชาชนทั้งสิ้น
“ผมขอฝากไปยังกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยายนต์รับจ้างทั้งหมดที่ถูกข่มขู่รีดไถเงินว่า ไม่ต้องไปจ่ายเงินใดๆ ให้แก่ผู้ที่มาเรียกเก็บ ซึ่งทางผมเองก็จะกำชับสั่งการไปยังผู้กำกับการแต่ละ สน.ด้วยให้เข้าไปดูแลความเรียบร้อยอย่างเต็มที่ หากมีกลุ่มผู้มีอิทธิพลเข้ามาข่มขู่ กรรโชก เรียกเก็บเงินอยู่ ให้แจ้งไปยังผู้กำกับในแต่ละ สน.ได้ทันที และจะมีการออกหมายจับกลุ่มคนเหล่านั้นอย่างแน่นอน” พล.ต.ท.วินัยกล่าว
นายวันเฉลิมกล่าวว่า หลังจากที่เกิดกรณีดังกล่าวขึ้นมา นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้แต่งตั้งให้เข้ามาดูแลในเรื่องนี้ โดยกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยายนต์รับจ้างต้องการร้องเรียนให้วินจักรยายนต์รับจ้างขึ้นตรงกับกรมขนส่งนั้น ขณะนี้ทางกรมขนส่งได้มีการศึกษาการแก้ไขกฎระเบียบในข้อดังกล่าวอยู่ ซึ่งทางเขตและทางกรมขนส่งยังหารือกันไม่ลงตัว ทั้งนี้ ตนจะเข้าไปปรึกษากับทางนายจารุพงศ์อีกครั้งหนึ่ง เพื่อหาข้อสรุปต่อไป ซึ่งทุกข้อร้องเรียนที่พวกท่านร้องเรียนความเดือดร้อนเข้ามานั้นได้มีการติดตามความคืบหน้าจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลตลอดมา ซึ่งแต่ละคดีก็มีความคืบหน้าไปมากแล้ว ขออย่าได้กังวลในเรื่องนี้ หากใครมีปัญหาที่เกิดขึ้นใหม่ก็ให้มาบอกกันได้ พร้อมจะแก้ไขปัญหาให้ทุกเรื่อง
ด้าน พล.ต.ต.วิชัยกล่าวว่า เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นรูปธรรมมากขึ้นและมีความชัดเจนในเรื่องของการ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ขอให้ผู้เดือดร้อนในแต่ละวินรวบรวมรายชื่อมาทั้งหมดว่า แต่ละคนจ่ายเงินให้กับใครบ้าง คนที่มาข่มขู่รีดไถเงินนั้นคือใคร ชื่ออะไร อยู่ที่ไหน ให้ไปบอกกับ ผกก.ท้องที่นั้นๆ และให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจะได้มีการออกหมายจับผู้กระทำความผิดข้อหากรรโชกทรัพย์ต่อไป เพื่อทำให้เป็นคดีตัวอย่างพร้อมตรวจสอบยึดทรัพย์ด้วยเช่นเดียวกับคดีเป๊กโก้ที่ตนเองเคยทำคดีมาก่อน มีการตรวจสอบ ยึดทรัพย์ ต้องโทษจำคุกถึง 6 ปีด้วยกัน
นายสมชาย สุวรรณเจิดจิตร อายุ 50 ปี ผู้ขับขี่ จยย.รับจ้างซอยอ่อนนุช 2-4 ท้องที่ สน.พระโขนง ให้ข้อมูลตำรวจว่า ถูกนายเกื้อ (ไม่ทราบนามสกุล) เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เรียกเก็บเงินค่าวิน จยย.เดือนละ 750 บาท ต่อคน มานานหลายปี ล่าสุดมีการประกาศขึ้นค่าวิน จยย.เป็นคนละ 1,000 บาท โดยนายเกื้ออ้างว่า เงินที่เก็บได้ส่งให้ตำรวจแต่ไม่รู้ว่าตำรวจที่ไหน จึงอยากให้ ผบช.น.และนายวันเฉลิม ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงในจุดนี้ด้วย