xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ได้ภาพ 4 คนร้ายฆ่าชิงทองเจ้าของร้านสูทเงาะ-เร่งล่าตัว!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ภาพในคืนเกิดเหตุ
ตร.ปทุมวัน ตามแกะรอยล่าตัวคนร้ายฆ่าชิงทอง 3 บาท เจ้าของร้านตัดสูท ย่านปทุมวัน ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดพบคนร้ายที่ก่อเหตุมี 4 ราย เบื้องต้นพบพฤติกรรมคนร้ายคล้ายคดีที่ก่อเหตุในท้องที่ สน.พลับพลาไชย 1-2 พร้อมนำภาพคนร้ายที่ได้ไปออกหมายจับต่อไป

วันนี้ (19 เม.ย.) เวลา 12.00 น. พ.ต.ท.พนม เชื้อทอง รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน เปิดเผยความคืบหน้ากรณีคนร้ายทำร้ายนายศิริพงษ์ จิระพงศ์สกุล อายุ 68 ปี เจ้าของร้านตัดสูทชื่อเงาะ โดยการจับศีรษะกระแทกกระถางต้นไม้ ก่อนชิงสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท พร้อมพระเลี่ยมทองไป อยู่บริเวณหน้า หจก.ไทรอัมพ์ สปอร์ต เลขที่ 66 ถนนพระราม 1 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา ว่า ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้แกะรอยคนร้ายจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียงจนได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะที่คนร้ายจำนวน 4 คน สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ นั่งซ้อนรถจักรยานยนต์มา 2 คัน โดยแต่ละคันนั่งมา 2 คน โดยคนร้ายคันแรกเป็นรถ จยย. ไม่ทราบรุ่น สี และทะเบียน ได้ขับย้อนศรมาจอดกลางถนนใกล้ที่เกิดเหตุ ส่วนคนร้ายอีก 2 คน ขับรถ จยย. เลยไปจากที่เกิดเหตุเพื่อคอยดูต้นทาง

หลังจากนั้น หนึ่งในคนร้ายซึ่งเป็นคนซ้อนท้ายเดินปรี่เข้ามาประชิดตัวและชกต่อยผู้ตาย แล้วใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงเข้าที่ด้านหลัง จำนวน 1 นัด กระทั่งผู้ตายล้มลงกองกับพื้น จึงกระชากสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาท จากคอผู้ตายแล้วรีบวิ่งไปขึ้นรถ จยย. ที่จอดรอรับอยู่หนีไป ซึ่งรถ จยย. ทั้ง 2 คัน ได้แยกกันหลบหนีมุ่งหน้าไปทางสะพานยศเส โดยภาพจากกล้องวงจรปิดที่ได้นั้นถือว่าเป็นภาพระยะไกล ทำให้ไม่สามารถเห็นใบหน้าคนร้ายได้ชัดเจน นอกจากนี้จากการดูพฤติการณ์ของกลุ่มคนร้ายซึ่งมีความคล้ายคลึงกับคนร้ายที่เคยก่อเหตุในท้องที่ สน.พลับพลาไชย 1 และ สน.พลับพลาไชย 2 แต่ต้องให้ฝ่ายสืบสวนประสานไปทาง 2 สน.ดังกล่าว เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ถ้าได้ภาพใบหน้าที่ชัดเจน ทางพนักงานสอบสวนจะนำหลักฐานที่ได้ขออนุมัติหมายจับทันที

ด้าน พ.ต.ท.พนม เปิดเผยว่า จากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์นิติเวชฯ ระบุว่า ในวันที่เกิดเหตุทางแพทย์ไม่พบร่องรอยการถูกยิง พบแต่เพียงร่องรอยฟกช้ำที่บริเวณใบหน้าและลำตัวเท่านั้น กระทั่งตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งจนทราบว่าผู้ตายถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 หัวกระสุนเข้าทางด้านหลังทะลุตัดเส้นเลือดใหญ่ใกล้หัวใจ และไปฝังอยู่ที่บริเวณสีข้างทำให้เลือดคั่งอยู่ด้านในร่างกาย เป็นเหตุให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที
กำลังโหลดความคิดเห็น