รวบหนุ่มใหญ่ ควบ จยย.คอยสอดส่องห้องพักตามอพาร์ตเมนต์ที่ล็อกประตูด้านนอก เมื่อสบโอกาสจะใช้ไขควงงัดแงะกุญแจห้องค้นทรัพย์สินขายตลาดคลองถม รับสารภาพทำมาแล้วกว่า 2 ปี พบมีหมายจับติดตัวหลายคดี อ้างหาเงินเลี้ยงลุงที่แก่ชรา
วันนี้ (19 ต.ค.) ที่วงเวียนโอเดียน พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ รองผบช.น พร้อมด้วย พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ สายันประเสริฐ ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 และ พ.ต.ท.ปัญญาศักดิ์ ปริญญานุสรณ์ รองผกก.สส.สน.พลับพลาไชย 2 แถลงการจับกุมนายอภิชาติ หรือ เชษฐ อมรเลิศรัตน์ อายุ 39 ปี พร้อมของกลางนาฬิกายี่ห้อ แทคฮอยเออร์ ราคาประมาณ 60,000 บาท จำนวน 1 เรือน รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีขาวคาดแดง จำนวน 1 คัน ซึ่งผู้ต้องหาเอาไปจำนำไว้และเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดกลับมา และยังมีโทรศัพท์ยี่ห้อไอโฟนที่คนร้ายนำไปขาย ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการติดตามมาคืนผู้เสียหาย
พล.ต.ต.อนันต์ เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากได้สั่งการให้ พ.ต.ต.เดโช สมศรีธนาเดช สว.สส.สน.พลับพลาไชย 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่สืบสวนและเกาะติดตามคนร้ายจนทราบพฤติกรรมว่าก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้งในหลายท้องที่เป็นเวลา 2 ปี โดยการใช้รถจักรยานยนต์ที่เคยลักเอามาในช่วงเดือน พ.ค.ในเขตท้องที่ สน.บางยี่เรือ ซึ่งจะขับขี่ จยย.ตระเวนไปตามอพาร์ตเมนต์ หรือห้องพักต่างๆ ในช่วงเวลากลางวัน โดยจะสังเกตจากห้องที่มีการล็อกกุญแจทางด้านนอก ซึ่งเมื่อเห็นว่าเจ้าของห้องไม่อยู่ก็จะนำอุปกรณ์ไขขวง และคีมล็อก งัดแงะเข้าไปภายในห้องพักแล้วรื้อค้นทรัพย์สินมีค่าไปขาย โดยจะใช้เวลาก่อเหตุแค่ 5-10 นาทีเท่านั้น
พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวว่า จากการสอบสวน นายอภิชาติ ได้ก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายคดีในหลายท้องที่จนหลบหนีมาอยู่ในเขตพื้นที่ สน.พลับพลาไชย 2 โดยมีหมายจับติดตัวจากศาลพระโขนง ข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถานฯ วันที่ 2 มิ.ย.52 ท้องที่ สน.บางนา และท้องที่ สน.ประเวศ
จากการสอบสวน นายอภิชาติ ให้การรับสารภาพว่า ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง และต้องหาเงินเลี้ยงลุงซึ่งแก่ชรา จึงได้ตระเวนลักทรัพย์ตามอพาร์ตเมนต์ต่างๆ โดยจะเลือกก่อเหตุห้องที่เจ้าของไม่อยู่มีการล็อกกุญแจจจากภายนอก โดยทำมาแล้วเป็นเวลา 2 ปี โดยทรัพย์สินที่ได้มาส่วนใหญ่จะนำไปขายที่ตลาดคลองถมและนำเงินมาใช้จ่ายทั่วไป
จากการตรวจสอบประวัติอาชญากร พบว่า เคยถูกจับในข้อหาเดียวกัน ในเขตพื้นที่ สน.พญาไท และ สน.บางพลัด แต่ผู้ต้องหาได้หลบหนีการประกันตัวในชั้นศาล เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ฯ ของ สน.พลับพลาไชย 2 หากมีพื้นที่ สน.ใด ที่มีคนร้ายก่อเหตุในลักษณะนี้ สามารถให้ผู้เสียหายมาติดต่อขอดูตัวผู้ต้องหาได้ที่ สน.พลับพลาไชย 2
วันนี้ (19 ต.ค.) ที่วงเวียนโอเดียน พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ รองผบช.น พร้อมด้วย พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ สายันประเสริฐ ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 และ พ.ต.ท.ปัญญาศักดิ์ ปริญญานุสรณ์ รองผกก.สส.สน.พลับพลาไชย 2 แถลงการจับกุมนายอภิชาติ หรือ เชษฐ อมรเลิศรัตน์ อายุ 39 ปี พร้อมของกลางนาฬิกายี่ห้อ แทคฮอยเออร์ ราคาประมาณ 60,000 บาท จำนวน 1 เรือน รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีขาวคาดแดง จำนวน 1 คัน ซึ่งผู้ต้องหาเอาไปจำนำไว้และเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดกลับมา และยังมีโทรศัพท์ยี่ห้อไอโฟนที่คนร้ายนำไปขาย ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการติดตามมาคืนผู้เสียหาย
พล.ต.ต.อนันต์ เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากได้สั่งการให้ พ.ต.ต.เดโช สมศรีธนาเดช สว.สส.สน.พลับพลาไชย 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่สืบสวนและเกาะติดตามคนร้ายจนทราบพฤติกรรมว่าก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้งในหลายท้องที่เป็นเวลา 2 ปี โดยการใช้รถจักรยานยนต์ที่เคยลักเอามาในช่วงเดือน พ.ค.ในเขตท้องที่ สน.บางยี่เรือ ซึ่งจะขับขี่ จยย.ตระเวนไปตามอพาร์ตเมนต์ หรือห้องพักต่างๆ ในช่วงเวลากลางวัน โดยจะสังเกตจากห้องที่มีการล็อกกุญแจทางด้านนอก ซึ่งเมื่อเห็นว่าเจ้าของห้องไม่อยู่ก็จะนำอุปกรณ์ไขขวง และคีมล็อก งัดแงะเข้าไปภายในห้องพักแล้วรื้อค้นทรัพย์สินมีค่าไปขาย โดยจะใช้เวลาก่อเหตุแค่ 5-10 นาทีเท่านั้น
พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวว่า จากการสอบสวน นายอภิชาติ ได้ก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายคดีในหลายท้องที่จนหลบหนีมาอยู่ในเขตพื้นที่ สน.พลับพลาไชย 2 โดยมีหมายจับติดตัวจากศาลพระโขนง ข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถานฯ วันที่ 2 มิ.ย.52 ท้องที่ สน.บางนา และท้องที่ สน.ประเวศ
จากการสอบสวน นายอภิชาติ ให้การรับสารภาพว่า ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง และต้องหาเงินเลี้ยงลุงซึ่งแก่ชรา จึงได้ตระเวนลักทรัพย์ตามอพาร์ตเมนต์ต่างๆ โดยจะเลือกก่อเหตุห้องที่เจ้าของไม่อยู่มีการล็อกกุญแจจจากภายนอก โดยทำมาแล้วเป็นเวลา 2 ปี โดยทรัพย์สินที่ได้มาส่วนใหญ่จะนำไปขายที่ตลาดคลองถมและนำเงินมาใช้จ่ายทั่วไป
จากการตรวจสอบประวัติอาชญากร พบว่า เคยถูกจับในข้อหาเดียวกัน ในเขตพื้นที่ สน.พญาไท และ สน.บางพลัด แต่ผู้ต้องหาได้หลบหนีการประกันตัวในชั้นศาล เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ฯ ของ สน.พลับพลาไชย 2 หากมีพื้นที่ สน.ใด ที่มีคนร้ายก่อเหตุในลักษณะนี้ สามารถให้ผู้เสียหายมาติดต่อขอดูตัวผู้ต้องหาได้ที่ สน.พลับพลาไชย 2