ตำรวจมาเลเซียขอขยายเวลาควบคุมตัวผู้ต้องหาชาวอิหร่านที่หลบหนีไปจากเมืองไทยต่ออีก เพราะเพิ่งกลั่นกรองหนังสือของไทยที่ส่งไปให้ ในขณะที่ ผบ.ตร.ยังไม่ได้เจรจาเรื่องขอตัวผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดีในไทยกับ ผบ.ตร.มาเลเซีย
วันที่ (27 ก.พ.) เวลา 8.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. เป็นประธาน มอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นประถมาภรณ์มงกุฎไทย ให้แก่ อิค ตันศรี อิสมาอิล บิน ฮัจญี โอมาร์ ผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซีย และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ให้แก่ ดาตุค เสรี อาคิล บิน บุลัต ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลมาเลเซีย โดยมีนายพลตำรวจชั้นผู้ใหญ่ร่วมพิธีจำนวนมาก ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดกองเกียรติยศต้อนรับนายตำรวจของมาเลเซียพร้อมคณะ
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นเจ้าภาพการประชุมร่วมกันระหว่างตำรวจไทย-มาเลเซีย ระดับบริหาร ครั้งที่ 21ระหว่างวันที่ 26 - 29 ก.พ. 2555 ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ ซึ่งการประชุมมีเป็นประจำทุกปีๆ ละ 1 ครั้ง โดยผลัดเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพ ส่วนหัวข้อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ของปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติในปัจจุบันของทั้งสองประเทศ รวมถึงแนวทางความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายซึ่งกันและกัน ตลอดจนเป็นการเสริมสร้างและกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานตำรวจทั้งสองประเทศ
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า การร่วมประชุมในครั้งนี้ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ร่วมมือกัน และจะมีการพุดคุยเรื่องการต่อต้านยาเสพติด รวมทั้งเรื่องต่างๆ ในภาพรวมด้วย ส่วนจะมีการส่งตัวผู้ต้องหาชาวอิหร่านมายังประเทศไทยหรือไม่ ไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ เพราะว่าเป็นกฎหมายระหว่างประเทศ แต่วันนี้เป็นวันครบกำหนด 14 วัน ที่ประเทศมาเลเซียจะควบคุมชาวอิหร่านที่ศาลไทยออกหมายจับ แต่ทางการมาเลเซียขอขยายระยะเวลาการควบคุมต่อออกไปอีก เพราะเพิ่งได้กลั่นกรองหนังสือที่ทางการไทยส่งไปให้ ซึ่งเป็นอำนาจของทางการมาเลเซีย ส่วนการรับตัวกลับเรายังไม่ได้เตรียมการอะไรมากมาย
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าวอีกว่า การจับกุม 3 ชาวอิหร่านนั้นได้ใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมืองควบคุมตัวอยู่ เพราะกลุ่มชาวอิหร่านไม่ได้หลบหนีเข้าเมือง แต่วีซ่าหมดอายุไม่ได้ไปต่อ และพบว่าเคยติดต่อกับกลุ่มผู้ต้องหาชาวอิหร่านที่ก่อเหตุระเบิดแต่ยังไม่มีหลักฐานโยงไปถึงว่าเกี่ยวข้องอย่างไร ซึ่งพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาวีซ่าหมดอายุเท่านั้น และอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย ผบช.สท. ในฐานะโฆษก ตร.เปิดเผยว่า ไทยใช้สนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับมาเลเซีย ผ่านสนธิสัญญาที่ไทยเคยทำไว้กับประเทศอังกฤษ เพราะไทยไม่มีสนธิสัญญากับมาเลเซียโดยตรง และผู้ต้องหาที่ถูกทางการมาเลเซียควบคุมตัวเป็นการควบคุมตามกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองยังไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายแต่อย่างใด
วันที่ (27 ก.พ.) เวลา 8.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. เป็นประธาน มอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นประถมาภรณ์มงกุฎไทย ให้แก่ อิค ตันศรี อิสมาอิล บิน ฮัจญี โอมาร์ ผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซีย และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ให้แก่ ดาตุค เสรี อาคิล บิน บุลัต ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลมาเลเซีย โดยมีนายพลตำรวจชั้นผู้ใหญ่ร่วมพิธีจำนวนมาก ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดกองเกียรติยศต้อนรับนายตำรวจของมาเลเซียพร้อมคณะ
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นเจ้าภาพการประชุมร่วมกันระหว่างตำรวจไทย-มาเลเซีย ระดับบริหาร ครั้งที่ 21ระหว่างวันที่ 26 - 29 ก.พ. 2555 ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ ซึ่งการประชุมมีเป็นประจำทุกปีๆ ละ 1 ครั้ง โดยผลัดเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพ ส่วนหัวข้อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ของปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติในปัจจุบันของทั้งสองประเทศ รวมถึงแนวทางความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายซึ่งกันและกัน ตลอดจนเป็นการเสริมสร้างและกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานตำรวจทั้งสองประเทศ
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า การร่วมประชุมในครั้งนี้ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ร่วมมือกัน และจะมีการพุดคุยเรื่องการต่อต้านยาเสพติด รวมทั้งเรื่องต่างๆ ในภาพรวมด้วย ส่วนจะมีการส่งตัวผู้ต้องหาชาวอิหร่านมายังประเทศไทยหรือไม่ ไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ เพราะว่าเป็นกฎหมายระหว่างประเทศ แต่วันนี้เป็นวันครบกำหนด 14 วัน ที่ประเทศมาเลเซียจะควบคุมชาวอิหร่านที่ศาลไทยออกหมายจับ แต่ทางการมาเลเซียขอขยายระยะเวลาการควบคุมต่อออกไปอีก เพราะเพิ่งได้กลั่นกรองหนังสือที่ทางการไทยส่งไปให้ ซึ่งเป็นอำนาจของทางการมาเลเซีย ส่วนการรับตัวกลับเรายังไม่ได้เตรียมการอะไรมากมาย
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าวอีกว่า การจับกุม 3 ชาวอิหร่านนั้นได้ใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมืองควบคุมตัวอยู่ เพราะกลุ่มชาวอิหร่านไม่ได้หลบหนีเข้าเมือง แต่วีซ่าหมดอายุไม่ได้ไปต่อ และพบว่าเคยติดต่อกับกลุ่มผู้ต้องหาชาวอิหร่านที่ก่อเหตุระเบิดแต่ยังไม่มีหลักฐานโยงไปถึงว่าเกี่ยวข้องอย่างไร ซึ่งพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาวีซ่าหมดอายุเท่านั้น และอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย ผบช.สท. ในฐานะโฆษก ตร.เปิดเผยว่า ไทยใช้สนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับมาเลเซีย ผ่านสนธิสัญญาที่ไทยเคยทำไว้กับประเทศอังกฤษ เพราะไทยไม่มีสนธิสัญญากับมาเลเซียโดยตรง และผู้ต้องหาที่ถูกทางการมาเลเซียควบคุมตัวเป็นการควบคุมตามกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองยังไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายแต่อย่างใด