xs
xsm
sm
md
lg

ขอมาเลย์ส่งตัวอิหร่านกลับไทย-ออกหมายแดงล่าหญิงสาวร่วมขบวนการ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ตำรวจประสานสำนักงานอัยการสูงสุด และกระทรวงต่างประเทศ เตรียมทำเรื่องขอส่งตัวผู้ต้องหาชาวอิหร่านที่ทางการมาเลเซียจับได้ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาสอบสวนดำเนินคดีในไทย แม้ทั้งสองประเทสจะไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อกันก็ตาม แต่จะใช้ความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันเพื่อขอตัวผู้ต้องหารายนี้

วันนี้ (16 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ธนากร ศิริอัฐ ผบช.ส. กล่าวถึงความคืบหน้าในการเดินทางไปรับตัว Mr.Masoud Sedaghatzadeh อายุ 31 ปี ที่หลบหนีไปประเทศมาเลเซีย ว่ายังรอการประสานงานจากตำรวจมาเลเซียว่าจะให้เจ้าหน้าทีตำรวจสันติบาลไปรับตัวที่ใด โดยไม่ยืนยันว่าจะควบคุมตัวมาได้ภายในวันนี้หรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทางกองการต่างประเทศกำลังดำเนินการเพื่อประสานงานกับอัยการสูงสุด ในการส่งตัวผู้ต้องหาเป็นผู้ร้ายข้ามแดน และส่งเรื่องดังกล่าวให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.ลงนามในช่วงบ่าย ก่อนส่งให้อัยการสูงสุดผู้ดำเนินการ ซึ่งทั้งหมดเป็นขั้นตอนการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวด้วยว่า นอกจากการดำเนินการทางเอกสารแล้ว ยังมีการพูดคุยกันโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวกันเพื่อปรึกษาหารือในการส่งตัว Mr.Masoud มาดำเนินคดีในประเทศไทยโดยเร็วที่สุด เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนขยายผลต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.มณฑล เงินวัฒนะ รรท.ผบก.กองการต่างประเทศ ในฐานะหัวหน้าตำรวจสากลประจำประเทศไทย กล่าวถึงขั้นตอนการรับตัว Mr.Masoud Sedaghatzadeh ชายชาวอิหร่านที่หลบหนีไปได้ก่อนหน้านี้ว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสากลได้รับเอกสารต่างๆ รวมถึงหมายจับ Mr.Masoud โดยขณะนี้ทางตำรวจสากลในนามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยื่นคำร้องไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดว่าต้องการรับตัวผู้ร้ายข้ามแดนและซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดจะรวบรวมเอกสารไปยังกระทรวงการต่างประเทศของไทยเพื่อประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซีย ทั้งนี้ ประเทศมาเลเซียมีช่วงเวลาในการควบคุมตัวผู้ต้องหา 14 วัน

พ.ต.อ.มณฑลกล่าวอีกว่า สำหรับประเทศไทยและ มาเลเซีย ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกัน แต่ประเทศไทยจะอ้างสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศอังกฤษซึ่งประเทศอังกฤษเคยปกครองมาเลเซียมาก่อน นอกจากนี้ยังมีแนวทางในการใช้สัญญาต่างตอบแทน แลกเปลี่ยนผู้ต้องหากัน อันเนื่องมาจากความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศ

เมื่อถามว่า ในส่วนของตำรวจสากลมีข้อมูลของคนร้ายทั้ง 4 หรือไม่ พ.ต.อ.มณฑลกล่าวว่า ไม่มีตำรวจสากลของประเทศใดแจ้งเตือนมาแต่อย่างใด แต่ตั้งแต่เกิดเหตุ ทางสถานทูตต่างๆ ก็มีการประสานมายังตำรวจสากลของไทย ซึ่งได้ตอบไปอย่างไม่เป็นทงการแล้ว ส่วน น.ส.ไลลา โรฮานี ที่ออกนอกประเทศไทยไปตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมาก่อนเกิดเหตุระเบิดนั้น ทางตำรวจสากลนำหมายจับของไทย และเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อประสานไปยังองค์กรตำรวจสากลให้ออกหมายแดง เพื่อให้ตำรวจสากลประเทศต่างๆ จับกุมต่อไป

ด้านนายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับหนังสือจาก สตช. ในการขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนMr.Masoud Sedaghatzadeh ชาวอิหร่าน ที่ถูกออกหมายจับและหลบหนีไปกบดานยังประเทศมาเลเซีย โดยสามารถดำเนินการได้ 2 ทางเลือก คืออาจใช้วิธีขอให้ส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนสัญญาระหว่างไทยกับอังกฤษ ซึ่งอังกฤษเคยปกครองมาเลเซียมาก่อน หรือใช้วิถีทางการทูตโดยใช้หลักต่างตอบแทน ซึ่งอัยการสูงสุดจะดำเนินการประสานผ่านกระทรวงการต่างประเทศของไทยถึงกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย ตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2551

ทั้งนี้ ทางอัยการต้องใช้เวลารวบรวมเอกสารหลักฐานทางคดีจากพนักงานสอบสวน รวมทั้งการแปลเอกสารเพื่อร่างหนังสือถึงรัฐบาลมาเลเซีย ซึ่งทางการมาเลเซียต้องใช้เวลาพิจารณาหรือการไต่สวนด้วย คาดว่าต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง
Mr. Masoud Sedaghatzadeh ขณะหลบหนีออกจากซอยสุขุมวิท 31 หลังเกิดเหตุ
โฉมหน้าMr. Masoud Sedaghatzadeh
กำลังโหลดความคิดเห็น