xs
xsm
sm
md
lg

“ยิว” เตือนวินาศกรรม “เพรียวพันธ์” สั่งเฝ้าระวังสนามบิน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

แฟ้มภาพ ในวันเกิดเหตุ
“มูฮัมหมัด ฮะซาอิ” 1 ใน 3 ผู้ต้องหาชาวอิหร่าน ที่ก่อเหตุระเบิด 3 จุด เครียดจัดไม่ยอมกินข้าวปลา จนท.ต้องนำหญิงไทยที่รู้จักมาพูดคุย จนมีอาการดีขึ้น ด้าน ผบ.ตร.ระบุ ผู้ต้องหาชาวอิหร่านอีก 1 ที่ถูกทางมาเลเซียจับตัวได้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดประสานขอตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีแล้ว พร้อมสั่งเข้มเฝ้าระวังสนามบินเพิ่มมากขึ้น หลังอิสราเอลประกาศเตือนอาจมีการก่อเหตุวินาศกรรม

วันนี้ (16 ก.พ.) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.เปิดเผยหลังร่วมสอบปากคำ นายมูฮัมหมัด ฮะซาอิ อายุ 42 ปี 1 ใน 3 ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุระเบิด 3 จุด บริเวณ ซ.ปรีดีพนมยงค์ 31 เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา และสามารถจับกุมได้ทันทีที่สนามบินสุวรรณภูมิ ว่า ผู้ต้องหามีอาการเครียดและไม่ยอมทานอะไรเลย แต่เมื่อทางเจ้าหน้าที่ได้พาผู้หญิงชาวไทยที่รู้จักกันตั้งแต่พัทยามาเยี่ยม ก็เริ่มมีอาการดีขึ้นและยอมทานอาหารแล้ว ส่วนเรื่องการจะส่งตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีที่ สน.คลองตัน ต้องรอการทำสำนวนขอตัวไปสอบปากคำ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการขอตัวไปดำเนินคดี

พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เปิดเผยว่า การนำตัว นายมาซุด ซีดากัส ซาเดท อายุ 31 ปี ที่หลบหนีไปประเทศมาเลเซีย ขณะนี้ได้ส่งเรื่องไปให้สำนักการอัยการสูงสุดดำเนินการ เพื่อประสานขอตัวให้ส่งตัวนายมาซุด เป็นผู้ร้ายข้ามแดน โดยจะเร่งดำเนินการ ซึ่งตามปกติทางการมาเลเซีย สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ 14 วัน และหากทางการมาเลเซียได้ประสานมาทางการไทยก็พร้อมไปรับตัวมาดำเนินคดีทันที แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานงานมา ทั้งนี้ ได้สั่งการให้มีการเพิ่มความเข้มเฝ้าระวังสนามบินนานาชาติเพิ่มมากขึ้น ตามที่ประเทศอิสราเอลได้ประกาศเตือนว่าอาจจะมีการก่อเหตุวินาศกรรมในสนามบินนานาชาติ

“ชนิดและแหล่งผลิตของระเบิดที่ใช้ก่อเหตุ ได้สั่งการให้หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์ระเบิด หรือ อีโอดี ตรวจสอบ ซึ่งหลังจากนี้ตัวแทนทูตอินเดียประจำประเทศไทยจะเข้าหารือด้วย ซึ่งอาจจะมีการพูดคุยกันถึงเหตุการณ์ระเบิดที่มีความคล้ายกันทั้ง 2 ประเทศ” ผบ.ตร.กล่าว

ด้าน พล.ต.ท.วิบูลย์ บางท่าไม้ ผบช.สตม.เปิดเผยถึงกรณี นางโรฮานี ไลลา ผู้ที่ได้มาเช่าบ้านพักให้ชาวอิหร่าน ว่า ขณะนี้ทราบว่าผู้ต้องหาได้อยู่ในกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่านแล้ว ส่วนของการดำเนินคดีไม่สามารถตามจับกุมได้ เนื่องจากไทยไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศอิหร่าน แต่เชื่อว่าไม่มีผลต่อรูปคดี เพราะนางไลลาเป็นเพียงผู้ติดเช่าบ้านให้กับผู้ต้องหาทั้งสาม
กำลังโหลดความคิดเห็น